ผลสำรวจที่กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ คือผลสำรวจในหัวข้อ "ราษฎรพอใจลุงตู่" ที่อ้างอิงความเห็นของประชาชนกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศจำนวน 1,191 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการสำรวจความเห็นหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พลเอกประยุทธ์ ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งจากการที่ยังพักอาศัยอยู่ในบ้านพักทหาร และพบว่าประชาชนมากกว่าร้อยละ 80 เห็นว่าไม่มีนักการเมืองคนใดเหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์การเมืองแบบปัจจุบันเท่ากับ พลเอกประยุทธ์
ภายหลังถูก "หมวดเจี๊ยบ" วิจารณ์นำร่อง ดร.นพดล ได้โพสต์บุ๊คด้วยข้อความสั้นๆ เนื้อหาในโพสต์เป็นการยกสำนวนไทยมาเปรียบเปรยทำนองว่า "อย่านำพิมเสนไปแลกกับเกลือ" โดยระบุรายละเอียดว่า "ดีมาก หมวดหญิงยอดนักการเมืองเขาพูดได้ดีมีหลักการ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เก่ง แต่จนถึงวันนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นเกลือ ใครเป็นพิมเสน"
ต่อมา หลังจากที่ ส.ส.ก้าวไกลออกมาวิจารณ์ซ้ำ ทำให้ ดร.นพดล ชี้แจงอีกครั้งกับเนชั่นทีวีว่า อยากให้พรรคก้าวไกลและหมวดเจี๊ยบไปศึกษาการทำงานของ "ซูเปอร์โพล" ผ่านเว็บไซต์ของ "ซูเปอร์โพล" ก่อน เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาการทำงานของทั้งสองฝ่าย สำหรับตนนั้นอยากทำงานไปเรื่อยๆ สู่เป้าหมายที่ตั้งมั่นไว้ ไม่อยากเสียสมาธิ จึงไม่อยากเปิดประเด็นตอบโต้
แต่ถ้าหากจะให้ชี้แจงหรือพูดคุยสื่อสารไปถึงคนที่วิจารณ์ ก็กำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนได้ประโยชน์ โดยมีทางเลือกคือ 1.เปิดเผยทุกขั้นตอนการทำโพลล์ตามที่เรียกร้อง 2.เลือกเปิด อะไรเปิดได้ก็เปิด หรือ 3.นิ่งเงียบ ทำงานต่อไป แต่อย่าละเมิดกัน เพราะตนไม่ได้ละเมิดใคร
ผอ.ซูเปอร์โพล ย้ำทิ้งท้ายด้วยว่า ถ้านักการเมืองคนไหนรับไม่ได้กับ "กระจก" บานนี้ ก็ไปสร้างกระจกของตัวเอง และส่องดูหน้าตาของตัวเอง คงจะออกมาดูดี น่ามองกว่ากระจกบานนี้ของซูเปอร์โพล