ตัวแทนชาวบ้านและเกษตรกร 5 หมู่บ้าน ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กว่า 50 คน ได้รวมตัวกันนำเอกสารยืนยันสิทธิ์การเข้าทำกินในที่ดิน ส.ป.ก. เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือหลังได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่สำนักงานชลประทานเสริมระดับสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำลำปะเทีย ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมขังพื้นที่ทางการเกษาตรทั้งนาข้าว อ้อย ปาล์ม และสวนยางพาราที่ปลูกไว้เน่าเสียหาย ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถเก็บผลผลิตไปขายได้ทำให้ไม่มีเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว และชำระหนี้ ธกส.ที่กู้ยืมมาลงทุนทำการเกษตรเฉลี่ย10,000-100,000 บาท และต้องชำระทุกปี จึงร้องขอให้ทางชลประทานได้ลดระดับสปิลเวย์ลงเพื่อไม่ให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรของเกษตรกร ส่วนนาข้าว อ้อย ปาล์ม และสวนยางพารา ที่ถูกน้ำท่วมเน่าเสียหายให้จ่ายเงินชดเชยเยียวยา
นายเบี่ยง ทองมาก ตัวแทนชาวบ้าน บอกว่า ทำนาอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมมากว่า 30 ปีแล้ว ไม่เคยประสบปัญหาน้ำท่วม หลังจากชลประทานได้ก่อสร้างสปิลเวย์เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 1 เมตรเพื่อกักเก็บน้ำให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม เมื่อปี 2560 โดย 2 ปีแรกไม่มีปัญหา เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง แต่ปีนี้น้ำเยอะจนเอ่อท่วมเพราะกักเก็บน้ำได้มากขึ้น จึงอยากร้องขอให้ลดระดับสปิลเวย์ลงเพราะหากน้ำเยอะแบบนี้ทุกปีก็จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรแบบนี้ทุกปีเช่นกัน ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมเสียหายในปีนี้ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จ่ายชดเชยเยียวยาให้ด้วยเพราะไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขายได้ ทำให้ไม่มีเงินใช้หนี้ ธกส.
ด้านนางสมจิตร อ้วนสมบูรณ์ เกษตรกรอีกราย บอกว่า ที่มาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมก็อยากให้ช่วยเหลือ หลังจากได้รับผลกระทบจากการเสริมสปิลเวย์ทำให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปสำรวจผลกระทบ และหาแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว รวมถึงจ่ายชดเชยเยียวยาผลผลิตที่ถูกน้ำท่วมเสียหายด้วย เพราะตอนนี้เดือดร้อนมากขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ก็ได้รับเรื่องร้องไว้พร้อมจะรายงานผู้บังคับบัญชา และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาผลกระทบความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร