รองลงมา ได้แก่ มังคุด เพิ่มขึ้น 4.05 % และลองกอง เพิ่มขึ้น 0.52% ส่วนเงาะ ผลผลิตรวมลดลง 0.34% เนื่องจากเกษตรกรโค่นต้นเงาะที่ให้ผลผลิตแล้วทิ้ง เพราะราคาที่ลดลง ไม่จูงใจ อีกทั้งปัญหาแรงงานในการเก็บเกี่ยวเงาะที่หายาก และค่าแรงงานเก็บเกี่ยวสูงสำหรับเนื้อที่ยืนต้นของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 743,352 ไร่ เพิ่มขึ้น 3.86% เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยเนื้อที่ยืนต้นทุเรียนเพิ่มขึ้นประมาณ 9.82% ส่วนเนื้อที่ให้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 640,151 ไร่ เพิ่มขึ้น 1.03% เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยทุเรียน เพิ่มขึ้น 5.59 ส่วนลองกองลดลง 10.62% เงาะลดลง 3.88% และมังคุด ลดลง 0.55% เนื่องจากเกษตรกรตัดโค่นออกเพื่อปลูกทุเรียนทดแทน
ด้านผลผลิตต่อไร่ทั้ง 4 ชนิด คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศเอื้ออำนวย ปริมาณน้ำจะมีเพียงพอเลี้ยง โดยปัจจุบันทุเรียนออกดอกแล้วประมาณ 33.46% บางส่วนจะทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564 เป็นต้นไป ส่วนผลผลิตจะออกมากช่วงกลาง เม.ย.- กลาง พ.ค. 2564 ขณะที่เงาะออกดอกแล้วเล็กน้อยประมาณ 0.60% และมังคุดคาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตรุ่นแรกได้ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.- ส.ค. 2564