ผลตรวจโควิด-ผู้ใกล้ชิดสาวพิจิตรเป็นลบ
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
พิจิตร - ผลตรวจเชื้อโควิด-19 ผู้ใกล้ชิดสาวพิจิตรลักลอบจากท่าขี้เหล็ก เป็นลบ 4 ราย อีก 5 รายรอผล ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูง 580 รายผลเป็นลบ 36 ราย ที่เหลือรอผล พร้อมสั่งปิด 2 สถานบันเทิง 14 วัน
จากกรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกในพื้นที่ จ.พิจิตร เป็นหญิงอายุ 25 ปี ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา กัับเพื่อนสนิทและวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ได้โดยสารทางเครื่องบินเข้ากรุงเทพฯ จากนั้นขึ้นเครื่องต่อมาลงที่สนามบินพิษณุโลก โดยมีมารับและเข้าพักในหอพักในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร
โดยใช้เวลาเที่ยวตามสถานบันเทิง 2 แห่ง คือ ร้านเบิร์ดบาร์ และคร็อกโคไดล์ ร็อค ในช่วงเวลากลางคืน ตลอด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 28-30 พฤศจิกายน จนกระทั่งวันที่ 1 ธันวาคม 2563 เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้เก็บตัวอย่างและตรวจพบเชื้อผลเป็นบวก ทราบผลยืนยันในเวลา 00.30 น. จึงรายงานไปยังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และได้นำตัวผู้ติดเชื้อ กักกันโรคแล้ว และผู้ใกล้ชิด มีความเสี่ยงใกล้ชิด จำนวน 9 ราย
ล่าสุดวันที่ 4 ธันวาคม 2563นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจิตรถึงสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 พร้อมวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด โดยทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้รายงานกลุ่มเสี่ยง เป็นผู้สัมผัสทั้งหมด จำนวน 580 ราย แบ่งกลุ่มสี่ยง เป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มแรก ที่มีความเสี่ยงใกล้ชิด ที่ทำการกักตัว จำนวน 9 ราย ผลการตรวจออกมาเป็นลบ จำนวน 4 ราย ส่วนอีก 5 ราย รอผลตรวจ
2.กลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นของสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นพนักงาน นักร้อง นักท่องเที่ยว จำนวน 535 ราย ซึ่งผลตรวจออกมาเป็นลบ จำนวน 36 ราย ส่วนที่เหลือรอผลตรวจ 3.กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานร้านอาหารอีกจำนวน 36 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ โดยทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ติดตามเฝ้าดูอาการ พร้อมให้กักตัวอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง
นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจิตร มีมติให้สถานประกอบการบันเทิง ทั้ง 2 แห่ง ที่ผู้ติดเชื้อเข้าท่องเที่ยว ปิดต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป พร้อมให้ทำความสะอาดพื้นที่ ตามกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกำชับหน่วยงานกระทรวงแรงงาน เร่งหาแนวทางชดเชยกับผู้ประกอบการและพนักงาน ในร้านสถานประกอบการ ตามกฎระเบียบของกระทรวงต่อไป
