svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ม็อบราษฎรปรับแผนชุมนุมระยะยาวกับ 2 ปมเสี่ยง

03 ธันวาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลังจากการชุมนุมของ "กลุ่มราษฎร" เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจัดชุมนุมยืดเยื้อเลิกหลังเที่ยงคืน แต่ก็ยังไร้การนัดหมายการชุมนุมครั้งต่อไป ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าทิศทางการชุมนุมจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น

"เนชั่นทีวี" ตรวจสอบข้อมูลจากฝ่ายตำรวจ พบว่าทางตำรวจได้จัดทำรายงานสรุปการชุมนุมของกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เริ่มชุมนุมประมาณ 17.00 น. และยุติการชุมนุมเวลาประมาณ 00.20 น. ยอดผู้ชุมนุมสูงสุดประมาณ 4,000 คน แยกเป็นประชาชนทั่วไปและแนวร่วมคนเสื้อแดงประมาณ 2,200 คน ที่เหลือเป็นนักเรียน นักศึกษา ประมาณ 1,600 คน และกลุ่มการ์ด 200 คน เนื้อหาของการชุมนุมและการปราศรัยมุ่งโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนข้อสังเกตที่ว่าการชุมนุมส่อเค้ายืดเยื้อข้ามเที่ยงคืน และมีแกนนำบางคน เช่น นายอานนท์ นำภา ปราศรัยถึงการชุมนุมในปีหน้านั้น ทำให้ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า บรรดาแกนนำน่าจะอ่านสถานการณ์แล้วว่า แนวโน้มของการชุมนุมยังไม่สามารถสร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลได้มากพอ จึงมองไปที่การชุมนุมระยะยาว โดยหาประเด็นใหม่ๆ ทั้งในทางการเมือง สังคม กองทัพ กระบวนการยุติธรรม และสถาบันพระมหากษัตริย์ มาใช้ปลุกกระแสเพื่อระดมมวลชนและรักษาฐานมวลชนให้คงอยู่ต่อไป

ขณะที่ แนวทางการรับมือของรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงนั้น จะติดตามการเคลื่อนไหวไปตามสถานการณ์ โดยไม่ใช้มาตรการสลายการชุมนุม และประเมินว่าจำนวนมวลชนที่เข้าร่วมชุมนุมจะลดลงไปเรื่อยๆ ซึ่งที่ผ่านมามีทิศทางลดลงอย่างเห็นได้ชัดอยู่แล้ว แต่การชุมนุมระยะยาว จะเป็นแรงกดดันในเรื่องการหาแหล่งทุนสนับสนุน รวมทั้งการหาประเด็นใหม่ๆ มาชักจูงมวลชนได้ยากขึ้น

ม็อบราษฎรปรับแผนชุมนุมระยะยาวกับ 2 ปมเสี่ยง


ส่วนการดำเนินคดีตามกฎหมายกับแกนนำ จะทยอยดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน และไม่มีการเร่งรัด เพื่อไม่ให้ถูกนำไปโจมตีว่าเป็นการกลั่นแกล้ง โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่จะลดเงื่อนไขที่จะถูกนำไปสร้างกระแสปลุกระดมให้มากที่สุด

ขณะเดียวกัน ประเมินว่าการที่ม็อบนัดชุมนุมไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นการต่อสู้ในระยะยาว อาจสุ่มเสี่ยงทำให้เกิดความรุนแรงได้จาก 2 ช่องทาง คือ 1.จากกลุ่มคนที่เดือดร้อนจากการชุมนุมปิดถนน หรือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับม็อบราษฎร กับ 2.เป็นความรุนแรงที่เกิดจากแนวร่วมกลุ่มฮาร์ดคอร์ของม็อบเอง เนื่องจากไม่พอใจที่มองไม่เห็นชัยชนะ หรือต้องการพลิกเกมให้ตัวเองเป็นฝ่ายได้เปรียบ

ส่วนบทบาทของบรรดานักการเมืองหรือกลุ่มการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง หากมวลชนลดจำนวนลงไปกว่านี้ อาจต้องตัดสินใจเปิดตัวเป็นผู้นำอย่างชัดเจน เพื่อปลุกกระแสและเรียกความเชื่อมั่นศรัทธากลับมา แต่หากยังหลบๆ ซ่อนๆ หรือแอบอยู่ข้างหลังต่อไป การชุมนุมอาจเดินไปสู่จุดที่ไม่สามารถสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลได้เลย

logoline