"การท่าเรือ"ไล่บี้ "บีจีฯ"เป้าโควตาเอเอฟซีแชมป์เปี้ยนส์ลีก

การท่าเรือ เอฟ.ซี.ประสบความสำเร็จ กับฟุตบอลไทยลีก 1 นัดกลางสัปดาห์ ( เกมตกค้างนัดที่ 8 ) วันพุธที่ 2 ธันวาคม เมื่อเปิดบ้านเอาชนะ เอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด 2-0 ส่งให้อันดับใน ตารางไทยลีก 1 หลังผ่านเข้าสู่เกมที่ 13 จ่าฝูงของตารางคือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ 13 นัด เก็บไป 35 คะแนน จากการชนะ 11 เสมอ 2 ในขณะที่อันดับ 2 คือ การท่าเรือ เอฟ.ซี. 13 นัด มี 31 คะแนน จากการ ชนะ 10 เสมอ 1 แพ้ 2 อันดับ 3 คือ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 13 นัด มี 26 คะแนน และอันดับ 4 สิงห์เชียงรายยูไนเต็ด ที่แข่งมากกว่า คือ 14 นัด มี26 คะแนน จากการชนะ 8 เสมอ 2 แพ้ 4



ประเมินจากอันดับในตารางขณะนี้ การท่าเรือ เอฟ.ซี. ไล่ติด บีจี ปทุมยูไนเต็ด ในแบบหายใจรดต้นคอ ในขณะที่การทำผลงาน เพื่อจบ 1 ใน 4 ของตาราง คือ การได้สิทธิเป็นตัวแทนทีมฟุตบอลจากไทย ที่ได้ไปเล่นฟุตบอลเอเซีย กับ รายการเอเอฟซีแชมป์เปี้ยนส์ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม สำหรับ อันดับ 1 และ 2 ส่วนอันดับ 3 และ 4 คือการเข้าไปเล่นในรอบ รอบคัดเลือก รอบ2

อย่างไรก็ตาม 2 เกม ที่เหลือ สำหรับ 2 ทีม คือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และการท่าเรือ เอฟ.ซี. น่าสนใจอย่างยิ่งกับการทำผลงาน เพื่อยึดอันดับ 1 ของตาราง ทั้งนี้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังต้องการขั้นต่ำ 3 คะแนน เพื่อ การันตีการเว้นระยะห่าง กับทีมรองจ่าฝูง หรือจบอันดับด้วยการเป็นแชมป์ครึ่งฤดูกาลแรกในแบบไร้พ่าย ในขณะที่การท่าเรือ เอฟ.ซี. การทำคะแนนให้ได้ อีก 6 คะแนน กับ 2 นัด หลังสุด และต้องลุ้นให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไม่มีแต้มกับทั้ง 2 นัด ก็ อาจจะส่งให้ การท่าเรือ เอฟ.ซี. ขยับไปจบผลจ่าฝูง และดึงให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่รักษาพื้นที่นำของตาราง ให้อันดับขยับลงมา ที่รองจ่าฝูง

สันติ ทรงเต๊ะ ( โค้ชบลู)หัวหน้าผู้ฝึกสอนเอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด







สันติ ทรงเต๊ะ ( โค้ชบลู) หัวหน้าผู้ฝึกสอน เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด ทีมในไทยลีก 2 ให้มุมมอง กับ "เนชั่นทีวี" ว่า 2 เกม ก่อนจบครึ่งฤดูกาลแรก จะเป็นการต่อสู้ที่เข้มข้น กับทั้ง 4 ทีม ที่ทำผลงานเกาะกลุ่มนำในตารางขณะนี้ ทั้งบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ,การท่าเรือ เอฟซี , ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และสิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด พิจารณาจากการแข่งขันที่ผ่านเข้าสู่เกมนัดที่ 13



อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในขณะนี้ ถือว่าเอื้อให้กับ บีจี ปทุมยูไนเต็ด มากที่สุด ทั้งการมีคะแนนนำในตาราง ที่เหนือกว่าทีมอันดับ 2 และเกมที่จะพบกับ 2 ทีม นับจากนี้คือ สุพรรณบุรี เอฟซี และ สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด ขณะที่ การท่าเรือ เอฟ.ซี. ต้องพบกับราชบุรี มิตรผล เอฟซี และสิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งที่สุดแล้ว กลายเป็นว่าต้องตัดคะแนนกันเอง และถือเป็นเกมที่หนักพอสมควร กับการท่าเรือ เอฟ.ซี. เพราะทั้ง 2 ทีม คือ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และสิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด ต่างต้องการโอกาส ที่จะจบผลงาน เกาะกลุ่มเช่นเดียวกัน เพื่อการไปเล่น เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก ดังนั้น 2 เกม หลังสุด กับทั้ง 4 ทีม เชื่อได้ว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดกันอย่างยิ่ง เพื่อผลงานของทั้ง 4 ทีม