svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

เวทีดีเบตผู้สมัครนายกอบจ.โคราชคนแห่ฟังคึกคักไร้เงาเจ๊หน่อย

02 ธันวาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เวทีดีเบตผู้สมัครนายก อบจ.โคราชคึกคัก คนแห่ฟังการแสดงวิสัยทัศน์ ราว 150 คน ผู้สมัครมาแค่ 4 ไร้เงาเจ๊หน่อย ยลดา การจัดเวทีครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สมัครนายกอบจ.แต่ละคนได้แสดงวิสัยทัศน์ และนำเสนอนโยบายต่างๆให้กับประชาชนได้รับรู้

2 ธันวาคม 2563 ที่บริเวณลานกิจกรรมข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการจัดเวทีดีเบตผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมาขึ้น โดยเป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธินักข่าวนครราชสีมา, เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น เคซีทีวี และผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีกลางให้ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมาทั้ง 5 คน ได้แสดงวิสัยทัศน์ และนำเสนอนโยบายต่างๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้รับรู้ เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 นี้ 

ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้สมัครนายก อบจ.ทั้งหมด 5 คน ประกอบไปด้วย  เบอร์1 นายสาธิต ปิติวรา จากคณะก้าวหน้า อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคอนาคตใหม่, เบอร์ 2  นางยลดา หวังศุภกิจโกศล หรือเจ๊หน่อย จากกลุ่มร่วมสร้างโคราชโฉมใหม่ ภรรยาของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์, เบอร์ 3 นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก หรือหมอแหยง จากกลุ่มรักโคราช อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา และอดีตผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข, เบอร์4 นายวิฑูร ชาติปฏิมาพงษ์ กลุ่มอิสระ อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา 3สมัย และเบอร์5 นายตรีเพชร พรหมนิติพันธุ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทย เมื่อถึงเวลาการดีเบต ปรากฏว่ามีผู้สมัครเดินทางมาร่วมเวทีดีเบตเพียง 4 คนเท่านั้น โดยเบอร์ 2 คือ นางยลดาฯ ไม่ได้มาร่วมเวทีดีเบตด้วย ซึ่งทีมงานระบุว่าอยู่ระหว่างเดินทางไปหาเสียงพบปะประชาชนในพื้นที่ต่างอำเภอ

 

เวทีดีเบตผู้สมัครนายกอบจ.โคราชคนแห่ฟังคึกคักไร้เงาเจ๊หน่อย

โดยบรรยากาศมีประชาชนให้ความสนใจเดินทางมาร่วมฟังการดีเบต ประมาณ 150 คน ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา กว่า 30 นาย ทั้งนี้ผู้สมัครแต่ละคนก็ได้ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์กันคนละ 15 นาที และตอบคำถามคนละ 10 นาที โดยนายสาธิต ปิติวรา ผู้สมัคร เบอร์ 1 ชูนโยบายเอาใจคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการปฏิรูปการศึกษา ส่วนแผนบริหารจัดการงบประมาณปีละ 4,000 ล้านบาท จะเน้นเปิดเผยต่อสาธารณชน หรือ Open Goverment พร้อมผลักดันโคราชเป็นเมืองที่ก้าวหน้า ทั้งเรื่องการออกแบบการศึกษา ระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบการจัดการน้ำ และระบบการจัดการขยะที่ก้าวหน้า เพราะโคราชเป็นได้มากกว่าที่เคยเป็น โดยชูสโลแกน "เปลี่ยนประเทศไทย เริ่มได้ที่โคราช" เป็นนโยบายหลักในการหาเสียง 
ส่วนนายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก ผู้สมัครเบอร์ 3 ชูนโยบาย 3 ข้อ คือ 1.สร้างสภาประชาชน ให้เกิดขึ้นทุกอำเภอ ทำอย่างจริงจังเพื่อให้รับรู้รับทราบเรื่องงบประมาณ เพื่อจะได้ตัดสินใจร่วมกันนำมาบริหารใช้จ่ายได้ตรงเป้าหมาย และผลักดันงบประมาณของ อบจ.ลงสู่ทุกอำเภออย่างโป่รงใส ซึ่งสภาประชาชนแต่ละอำเภอจะต้องคิดเอาเองว่าจะของบประมาณมาปรับปรุงพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาอะไรให้กับพื้นที่ ไม่ใช่ทาง อบจ.จัดสรรงบลงไปให้เอง หรือแค่ผ่านผู้แทน หรือ สจ.ลงมาให้เท่านั้น แต่จะให้สภาประชาชนซึ่งมาจากทุกภาคส่วนของแต่ละอำเภอ เช่น ตัวแทนผู้สูงอายุ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เข้ามาช่วยกันพัฒนาและบริหารจัดการ, 2.สร้างพื้นที่ให้เป็น Smart City อำเภอสีเขียว พัฒนาทุกด้านเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเต็มที่ และ 3.การเมืองสีขาว ซึ่งการจะทำได้อย่างนี้ เราจะต้องไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง หรือเข้าไปหาเงินทอนจากโครงการต่างๆ เราจะต้องเข้าไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ สีขาวจากการเลือกตั้ง นายก อบจ.เข้ามาอย่างบริสุทธิ์ และประชาชนจะได้ใช้งบประมาณที่เป็นเงินภาษีของประชาชนเองอย่างเต็มที่ โปร่งใส จึงเป็นที่มาของนโยบาย 3 ข้อ "สภาประชาชน โคราชสีเขียว และการเมืองสีขาว"


เวทีดีเบตผู้สมัครนายกอบจ.โคราชคนแห่ฟังคึกคักไร้เงาเจ๊หน่อย

ขณะที่นายวิฑูร ชาติปฏิมาพงษ์ ผู้สมัครเบอร์ 4 ประกาศจะเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็น "อบจ. Connect คนโคราช 24 ชม." โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักที่ช่วยกระจายอำนาจและตรวจสอบได้ พร้อมชูนโยบาย 4 เดือนแรก อาทิ สร้างแบรนด์สินค้า เมด อิน โคราช สู่ระดับโลก, ผลักดันระบบขนส่งมวลชนในเขตเมือง เชื่อมต่อไประหว่างอำเภอ, เพิ่มพื้นที่สีเขียวทุกอำเภอโดยใช้ สวนน้ำบุ่งตาหลั่วโมเดล และจัดตั้ง อาสาสมัครบริบาลผู้สูงอายุและผู้พิการ จัดหาที่ที่ตากข้าวและโรงอบข้าวประจำหมู่บ้านและตำบล เป็นต้น 
ด้านนายตรีเพชร พรหมนิติพันธุ์ ผู้สมัครเบอร์ 5 ชูนโยบาย โคราชเมืองหลวงอีสาน เมืองกีฬา เมืองการศึกษาและเมืองท่องเที่ยว ใช้กลยุทธ์เคาะประตูบ้านเข้าถึง พึ่งได้ โดยหวังจะเป็นหนึ่งตัวเลือกสำหรับประชาชนที่เบื่อนักการเมืองที่มีความขัดแย้งกัน 
สำหรับจังหวัดนครราชสีมาแบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนกว่า 2.1 ล้านคน โดยการเลือกตั้งนายก อบจ. 1 คน และ ส.อบจ. 48 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 4,475 หน่วย การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 ซึ่ง กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมาตั้งเป้าไว้ว่า จะมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด

เวทีดีเบตผู้สมัครนายกอบจ.โคราชคนแห่ฟังคึกคักไร้เงาเจ๊หน่อย

logoline