รัฐบาลอังกฤษ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรียินดีทำตามคำแนะนำของสำนักงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือ MHRA ที่อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ที่พัฒนาโดยบริษัท ไฟเซอร์ ของสหรัฐ ร่วมกับบริษัท ไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนีในกรณีฉุกเฉินได้
แมตต์ แฮนค็อค รัฐมนตรีสาธารณสุข กล่าวแสดงความภูมิใจที่อังกฤษเป็นชาติแรกในโลกที่อนุมัติให้ใช้วัคซีนดังกล่าว และบอกว่า สำนักงานสาธารณสุขพร้อมเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศในสัปดาห์หน้า โดยวัคซีนล็อตแรก 8 แสนโดสจะถึงอังกฤษในสัปดาห์หน้า
วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนชนิดแรกในโลก ที่พัฒนาและนำออกใช้จริงได้เร็วที่สุดในโลกด้วยเวลาเพียง 10 เดือน โดยผ่านทุกขั้นตอนเหมือนกัน ทั้งที่ปกติมักใช้เวลานานนับสิบปี
วัคซีน BNT162b2 ของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค มีประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัส SARS-CoV-2 (ซาร์ส-คอฟ-2 ) ที่ก่อโรคโควิด-19 ได้มากถึง 95% และมีความปลอดภัยอังกฤษจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว 40 ล้านโดสเพียงพอสำหรับประชาชน 20 ล้านคน เนื่องจากแต่ละคนต้องได้รับวัคซีน 2 โดส โดยจะฉีดให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเป็นกลุ่มแรก ได้แก่ ผู้สูงอายุและเจ้าหน้าที่ในบ้านพักคนชรา และบุคลากรการแพทย์ ส่วนการฉีดวัคซีนในวงกว้างให้กับประชาชนทั่วไปที่มีอายุเกิน 50 ปี หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า50 ปีแต่มีโรคประจำตัวอาจเริ่มได้ในปีหน้า เมื่อมีวัคซีนในสำรองเพิ่มมากขึ้น
วัคซีนดังกล่าวผลิตในเบลเยียม โดยต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิ ลบ 70 องศาเซลเซียส และขนส่งด้วยกล่องพิเศษ ที่บรรจุน้ำแข็งแห้ง และสามารถเก็บในตู้เย็นทั่วไปได้นาน5 วัน
ขณะที่สหรัฐเตรียมพิจารณาอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคในวันที่ 10 ธ.ค.และสหภาพยุโรปเตรียมพิจารณาอนุมัติในวันที่ 29 ธ.ค.