จากกรณีกลุ่มขอนแก่นพอกันที มีนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นายธนภณ เดิมทำรัมย์ นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ถูกตั้งข้อหาฐานร่วมกันจัดการชุมนุมอีสานสิบ่ย่านเด้อ โดยไม่แจ้งหน่วยงานที่ควบคุมโรคติดต่อ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมประชุมกัน หรือมีโอกาสแพร่เชื้อโควิด-19 และไม่ได้จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคแก่ผู้เข้าร่วม โดยเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 63 กลุ่มขอนแก่นพอกันทีจัดกิจกรรม หมายที่ไหน ม็อบที่นั่น เดินขบวนฟังคำสั่งฟ้องคดีอีสานบ่ย่านเด้อ จากการชุมนุมเมื่อ 23 ก.ค. 63 ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศาลอนุญาตปล่อยตัวไม่ต้องวางหลักประกัน พร้อมนัดถามคำให้การวันที่ 2 ธ.ค. 63 นี้
2 ธันวาคม 2563 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น กลุ่มขอนแก่นพอกันที มี นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นายธนภณ เดิมทำรัมย์ หรืออาร์ตยุ่น นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมืองหรือเซฟ และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ ส่วนนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวินไม่ได้เดินทางมาศาลจังหวัด โดยระบุว่าติดสอบที่กรุงเทพ จึงไม่สามารถเดินทางมาได้นายวชิรวิทย์ กล่าวว่า สำหรับวันนี้สอบคำให้การจำเลยทั้ง 5 คน แต่มาศาลแขวงทั้งหมด 4 คน ขาดเพนกวินที่ติดสอบไม่ได้เดินทางมา โดยทั้ง 4 คน ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยในวันที่ 15-19 มีนาคม 2564 ศาลนัดสืบพยาน
"ข้อหาทั้งหมด 3 ข้อกล่าวหา คือ พรก.ฉุกเฉิน พรบ.โรคติดต่อและ พรบ.เครื่องขยายเสียง ทั้งหมดได้ปฏิเสธทุกข้อ เพราะใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนซึ่งได้โต้แย้งข้อกล่าวหาไป เชื่อว่าการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญนั้นย่อมพึงกระทำได้ในการชุมนุมเพราะว่ารัฐธรรมนูญรับรองสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมเอาไว้เพราะฉะนั้นกฎหมายที่มีลำดับศักดิ์ที่น้อยกว่านั้นย่อมไม่สามารถบังคับใช้ได้"นายวชิรวิทย์ กล่าว