นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจากการติดตามสถานการณืหลังจากพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 42ของจังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างซึ่งผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำ ได้ถูกนำตัวมาตรวจหาเชื้อและได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติตัว และให้กักตัวเป็นเวลา 14 วันโดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด และยังไม่มีมาตรการที่จะล็อคดาวน์จังหวัดรวมถึงผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่หรือเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ออกไปไม่ต้องกักตัว14 วัน
ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติตามมาตรการการใช้ชีวิตในรูปแบบNew Normal เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มผู้ประกอบการภาคเอกชนได้มีมติที่จะประกันความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ด้วยการตั้งกองทุนเพื่อดูแลและเยียวยาช่วยเหลือในกรณีเกิดการติดเชื้อโควิด-19จากการแพร่ระบาดหรือการสัมผัสจากผู้ป่วยรายที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่
"ขอยืนยันว่าจังหวัดเชียงใหม่ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ แบบ NewNormal สำหรับเรื่องการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนทางเส้นทางธรรมชาติต้องดำเนินการตามกฎหมาย ทางจังหวัดได้มอบหมาบให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ประมวลข้อมูลส่งไปยังตรวจคนเข้าเมืองที่ อ.แม่สาย จ.เชียงรายเนื่องจากมูลเหตุความผิดอยู่ที่จังหวัดเชียงรายจึงต้องให้ทางจังหวัดเชียงรายเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป" ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าว
ซึ่งทุกรายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้ถูกให้จำกัดการเคลื่อนไหวอยู่ในสถานที่กักตัวที่ภาครัฐกำหนด โดยมีเจ้าหน้าที่โควิดประจำหมู่บ้านคอยดูแลในกลุ่มนี้จึงไม่มีการเคลื่อนไหวไปนอกสถานที่กักตัวซึ่งแม้ว่าการตรวจหาเชื้อซ้ำแล้วพบการติดเชื้อก็จะไม่มีการแพร่ระบาดออกไปภายนอกทำให้พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีความปลอดภัย จากการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็วจึงทำให้ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีการแพร่ระบาดในวงกว้าง
สำหรับผู้ป่วยรายที่ 42ของเชียงใหม่อาการดีขึ้น ไม่มีสัญญาณการเป็นปอดอักเสบ อาการไข้น้อยลงแต่มีปัญหาเรื่องความเครียด คาดว่ามาจากได้รับการต่อว่าในโลกโซเซียลอย่างหนักโดยมีทีมจิตแพทย์เข้าดูแลและให้การรักษา
จึงขอย้ำว่า นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังสวยงาม สามารถเดินทางเข้ามาได้โดยเฉพาะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวปัจจุบันเป็นคนไทย ที่นิยมท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัวส่วนใหญ่นิยมเข้าไปท่องเที่ยวในสถานที่ตามธรรมชาติการที่จะรับเชื้อโควิด-19 จึงมีความเป็นไปได้น้อยมาก
นอกจากนั้นภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวยังมีมติร่วมกันในการประกันความเสี่ยงให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่หากมีการติดเชื้อโควิด-19 ต่อเนื่องจากผู้ป่วยราย ที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่ทางภาคเอกชนจะมอบเงินค่าทำขวัญให้ 100,000 บาทต่อรายหากเกิดการผิดพลาดถึงเสียชีวิต จะมอบเงินทำขวัญให้ 1,000,000 บาท