svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

แบงก์ชาติจ่อออกมาตรการดูแลค่าเงินบาทเพิ่มเติม

01 ธันวาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า เบื้องต้นในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ธปท.เตรียมจะแถลงมาตรการเพิ่มเติม ที่เป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจใหญ่ เพื่อดูแลค่าเงินบาทและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอัตราแลกเปลี่ยนไทย ซึ่งจะคล้ายกับมาตรการเศรษฐกิจที่มีทั้งระยะสั้นๆและระยะยาว ซึ่งมุ่งหวังให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวสองทิศทางเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถทดทานกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในอนาคต โดยเป็นการแก้ไขปัญหาที่ครบองค์ประกอบ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมา พบพฤติกรรมการเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นของนักลงทุนต่างชาติบ้าง ที่เข้ามาลงทุนในหลักทรัพย์ไทย แต่ไม่ได้บอกว่าทั้งหมดเป็นการเข้ามาเก็งกำไร เพราะเงินลงทุนที่เข้ามาบางส่วน เป็นการเข้ามาบริหารสภาพคล่องระยะสั้น และการลงทุนก็ต้องมีการพิจารณาผลตอบแทนด้วย
สำหรับเศรษฐกิจไทยในเดือนตุลาคม 2563 หดตัวในอัตราสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการหดตัวในเดือนก่อน จากปัจจัยชั่วคราวที่หมดลง และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่สูงในปีก่อน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนกลับมาหดตัวจากที่ขยายตัวได้เล็กน้อยในเดือนก่อน หลังปัจจัยชั่วคราววันหยุดยาวพิเศษหมดลง ทั้งนี้ คาดว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/63 จะไม่ฟื้นตัวแรงเหมือนไตรมาส 3/63 เนื่องจากในไตรมาส 2/63 รัฐบาลมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดหยุดนิ่ง ส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาส 3/63 หลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ฟื้นตัวแรง แต่ในไตรมาส 4/63 ยังมีแรงส่งสำคัญจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจนถึงต้นปี 64
มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำยังเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน แต่หดตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนเช่นเดียวกับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวสูงขึ้น โดยส่วนหนึ่งจากผลของฐานสูงในปีก่อน ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐกลับมาหดตัวจากการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำที่ล่าช้า ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังหดตัวสูงจากผลของมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานในภาพรวมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องแต่ยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงเล็กน้อยตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลเพิ่มขึ้น
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนกลับมาหดตัวจากที่ขยายตัวได้เล็กน้อยในเดือนก่อน ตามการใช้จ่ายที่ปรับตัวลดลงในเกือบทุกหมวด เนื่องจากปัจจัยชั่วคราววันหยุดยาวพิเศษในเดือนก่อนหมดลง ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนกลับมาหดตัว และหมวดบริการหดตัวสูงขึ้น ประกอบกับมีผลของฐานสูงในปีก่อนจากผลของมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ
อย่างไรก็ดี การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว สอดคล้องกับปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อที่ทยอยปรับดีขึ้น ทั้งการจ้างงาน รายได้ของครัวเรือนทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรม และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประกอบกับได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐต่อเนื่อง
ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศหดตัวสูงต่อเนื่องจากระยะเดียวกันของปีก่อน จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังมีอยู่ แม้ในเดือนนี้ภาครัฐเริ่มอนุญาตให้นักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourists Visa : STV) เดินทางเข้าไทยได้ แต่ยังมีจำนวนน้อย ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงตามราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลง จากการใช้มาตรการส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ดี ตลาดแรงงานในภาพรวมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งด้านการจ้างงานและรายได้ แต่ยังเปราะบาง แม้ว่าตัวเลขในตลาดแรงงานมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในส่วนของผู้ทำงานไม่ถึง 4 ชั่วโมงต่อวัน มีสัดส่วนที่ลดลงต่ำกว่า 4 ล้านคน จากช่วงก่อนหน้าที่อยู่สูงระดับ 6 ล้านคน รวมทั้งรายได้รวมและเงินพิเศษ (โอที) เริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งสะท้อนจากทั้งอัตราการว่างงานและสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานในระบบประกันสังคม ที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงเล็กน้อยตามการขาดดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลใกล้เคียงเดิม

logoline