ขณะที่ 50% คาดการณ์ว่าจะมีนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น และแนวโน้มนักท่องเที่ยวจากจีน น่าจะเริ่มกลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง และกล่าวได้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนนั้นน่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยพลิกฟื้นได้ในไตรมาสท่ีหนึ่งปี 2564 ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของกองทนุการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ที่คาดการณ์ว่าปี 2564 เศรษฐกิจโลกจะกลับมาฟื้นตัวราว 5.2% ส่วนเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 8.2% และเศรษฐกิจไทย จะขยายตัวที่ 4.0%
สำหรับมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจไทยคาดการณ์ว่าอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะโตอยู่ระหว่าง 2.5-3.5% โดยมองว่าเศรษฐกิจการค้าการลงทุนของไทยโดยรวมในไตรมาสแรกของปี 2564 โดยเฉพาะในภาคธุรกิจพาณิชย์ อิเล็กทอนิกส์ สินค้าเกษตร บริการโลจิสติกส์ บริการสุขภาพ และ สินค้าเกษตรแปรรูป จะเป็นแรงขับเคลื่อน เศรษฐกิจไทย ขณะที่อุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย ได้แก่ อตุสาหกรรมการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง และอุตสาหกรรมการผลิตเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องมีมาตรการการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อให้เกิดการกระตุ้นการขับเคลื่อนของธุรกิจดังกล่าว
ทั้งนี้ในความเคลื่อนไหวทางด้านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์คาดการณ์ว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2564 มีแนวโน้ม ปรับตัวดีขึ้นในส่วนอัตราแลกเปลี่ยน มองว่าผู้ค้ากับต่างประเทศต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ความเสี่ยงของค่าเงินบาท ที่อาจจะมีทิศทางแข็งค่ามากขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2563 อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยอาจจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ในการฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น แม้ว่าจะมีการค้นพบวัคซีนก็ตาม
นอกจากนี้ จากผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาที่ได้นายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่เชื่อว่าจะทำให้ความขัดแย้งระหว่างประเทศสหรัฐและจีนผ่อนคลายลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของระหว่างสองประเทศทำให้การค้าโลกผ่อนคลายมากขึ้นที่จะมีส่วนทำให้ไทยได้รับผลดีตามไปด้วย ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใก้ลชิดของนักลงทุนโดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองไทย และมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาลในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีน ในรอบ 10 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค.-ต.ค.2563) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 64,763 ล้านดอลลาร์ หรือ คิดเป็น 17.89% ของมูลค่าการค้ารวมของไทยโดยมีการส่งออกไปยังประเทศจีนมูลค่า 24,542 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 2.7% คิดเป็น 12.76% ของการส่งออกของไทย
นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริม และอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับสมาชิก หอการค้าไทย-จีนได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างหอการค้าไทยจีน กับ ธนาคารแห่งประเทศจีนซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ และโอกาสทางธุรกิจรวมถึงการเข้าถึงการบริการของธนาคารแห่งประเทศจีนทั่วโลก