จับ 4 คนไทย หนีข้ามแดน ไทย-พม่า พบเดินเที่ยวแม่สายหน้าตาเฉย
ผุ้ว่าฯ เชียงราย สั่งทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว รวบ 4 คนไทย ผู้ต้องหาหลบหนีข้ามแดน ข้ามลำน้ำเมย หวั่นติดเชื้อโควิด19 หลังแอบลักลอบเข้าไปทำงานใน "โก๊กโก่คาราโอเกะ" เมืองเมียวดี ประเทศเมียนม่า และหนีกลับไทยด้วยช่องทางธรรมชาติ
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (29 พ.ย.63 ) ร.อ.พิสิฐ อภิเดช ผบ.ร้อย.ม.3 บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย กรมควบคุมโรคติดต่อ จ.เชียงราย ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงแม่สาย จ.เชียงราย ได้ร่วมกันควบคุมตัวและสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งที่ลักลอบหลบหนีข้ามแดน "ไทย-เมียนม่า" จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.เอ (นามสมมุติ) ชาว จ.นครราชสีมา , น.ส.บี (นามสมมุติ) ชาว จ.สกลนคร , น.ส.ซี (นามสมมุติ) ชาว จ.นครราชสีมา และนายสม (นามสมมุติ) ชาว จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งทั้งหมดเคยทำงานที่ "โก๊กโก่คาราโอเกะ" เมืองเมียวดี ฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทั้งนี้ หลังจากหยุดทำงานดังกล่าว จึงได้เดินทางกลับเข้าไทยด้วยการลักลอบ ข้ามลำน้ำเมย ตามช่องทางธรรมชาติที่ผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 24 พ.ย.63 จากนั้นในวันที่ 26 พ.ย.63 จึงได้เดินทางมาเที่ยวใน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ทั้งหมดได้เข้าพักที่โรงแรม ท็อปนอร์ธ อำเภอแม่สายฯ โดยน.ส.เอ และน.ส.บี ถูกควบคุมตัวได้ที่ด่านกิ่วทัพยั้ง อำเภอแม่จันจังหวัดเชียงราย ขณะเดินทางด้วยรถโดยสารปรับอากาศ สาย "แม่สาย-กทม." โดยมีที่หมายปลายทางคือ พัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี
ส่วน น.ส.ซี และ และนายสม ถูกควบคุมตัวได้ที่โรงแรมท็อปนอร์ธ อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย ซึ่งทั้งหมดถูกดำเนินคดี ในข้อหา ไม่เดินทางเข้ามาใน หรือออกไปนอกราชอาณาจักร ตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าและสถานี หรือท้องที่ที่กำหนด ตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ บุคคลทั้ง 4 ได้ถูกส่งเข้ากักตัวที่ โรงแรมแห่งหนึ่งใน จังหวัดเชียงราย ทั้งนี้ ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากพบคนไทย ติดเชื้อโควิด19 ที่ลักลอบข้ามแดนจากประเทศเมียนม่า เข้ามายังประเทศไทย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และล่าสุดในจังหวัดเชียงรายนั้น ทำให้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการสกัดกั้นการเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด พร้อมเพิ่มจำนวนกำลังเจ้าหน้าที่และความถี่ในการออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนอำเภอแม่สาย ไปจนถึงอำเภอแม่ฟ้าหลวง ทั้งเวลากลางวันและเวลาคืน อีกทั้งเพิ่มการติดตั้งรั้วลวดหนามในพื้นที่เสี่ยงซึ่งเป็นทางธรรมชาติ จุดลับตาคน ไม่ให้บุคคลต่างด้าวเข้ามาได้โดยสะดวก ภายหลังมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายล่าสุด ลักลอบเข้ามาผ่านพื้นที่จังหวัดเชียงราย