svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

สสจ.เชียงใหม่ชี้ 5 จุดเสี่ยงเฝ้าระวังเชื้อโควิด-19

28 พฤศจิกายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สสจ. เชียงใหม่ แถลงคืบหน้า กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 พบผู้สัมผัสทั้งหมด จำนวน 306 ราย ในนี้มีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 85 ราย และได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว จำนวน 102 ราย ทราบผลการตรวจแล้ว 17 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด พร้อมแจ้ง 5 จุดเสี่ยง หากประชาชนเดินทางเข้าไปในจุดดังกล่าว ขอให้แจ้งเพื่อทำการตรวจหาเชื้อโควิด -19

สสจ.เชียงใหม่ชี้ 5 จุดเสี่ยงเฝ้าระวังเชื้อโควิด-19


                เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จ.เชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ นายแพทย์ กิติพันธ์ ฉลอม นายแพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน ด้านระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมแถลงข่าว กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด- 19 ทีจังหวัดเชียงใหม่
               นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานบันเทิง และสถานประกอบการที่คล้ายสถานบันเทิง โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด จากการลงพื้นที่พบว่าบางแห่งมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด จึงได้สั่งปิดเป็นเวลา 14 วัน จึงขอความร่วมมือสถานประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดทางจังหวัดจะลงโทษตามระเบียบต่อไป

สสจ.เชียงใหม่ชี้ 5 จุดเสี่ยงเฝ้าระวังเชื้อโควิด-19


             นายแพทย์วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ กล่าวว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อาการดีขึ้นตามลำดับไม่พบอาการปอดบวม สำหรับมาตรการในช่วงนี้ทางโรงพยาบาลมีการเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องมื บุคลากร ห้องความดันเป็นลบ และบุคลากรทางการแพทย์ไว้พร้อม รองรับประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริหาร

สสจ.เชียงใหม่ชี้ 5 จุดเสี่ยงเฝ้าระวังเชื้อโควิด-19


              นายแพทย์ กิติพันธ์ ฉลอม นายแพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน ด้านระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ดำเนินการสบสวนโรคตั้งแต่ที่ทราบเรื่องจากโรงพยาบาลเอกชน ในช่วงที่ผ่านมาได้หาข้อมูล จากผู้ป่วยและการติดตามจากกล้องวงจรปิดในสถานที่ต่างๆ รวมถึงการตรวจสอบทะเบียนรถ เพื่เป็นข้อมมูลที่เป็นประโยชน์ในการสอบสวนโรค
ข้อมูลผู้ป่วยในช่วงแรกค่อนข้างมีความสับสน เนื่องจากมีประเด็นเรื่องของกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงมีความจำเป็นต้องทำการตรวจสอบอย่างชัดเจน ผู้ป่วยรายนี้เป็นหญิงอายุ 29 ปี อาศัยอยู่ในเมียนมาตั้งแต่เดือน ตุลาคม พฤศจิกายน 2563 และเริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 63 จึงเดินทางกลับประเทศไทยผ่านทางจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 63 และได้ขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิค 19 ที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2563 ผลการตรวจยืนยัน 2 แลป ทั้งของโรงพยาบาลเอกชนและห้องแลปของทางโรงพยาบาลนครพิงค์ ระบุตรงกันว่าผลยืนยันพบเชื้อโควิด 19 จึงได้รับผู้ป่วย ซึ่งมีอาการไข้ ไอ ปวดศีรษะ ท้องเสีย จมูกไม่ได้กลิ่น เข้ารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งในขณะนี้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ ไม่มีหอบเหนื่อย จมูกเริ่มได้กลิ่น
               สำหรับไทม์ไลน์ "ผู้ป่วย COVID-19" คนที่ 42 วัันที่ 24 พ.ย. 2563 เดินทางจากจังหวัดเชียงรายเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถประจำทางบริษัทกรีนบัส เส้นทางเชียงราย-เชียงใหม่ เวลา 11.00 - 15.00 น. จากนั้นได้เดินทางด้วยรถ (Grab1) เข้าพักคอนโดของตนเองที่ ดีคอนโดพิงค์ และได้เดินทางไปเที่ยวร้านคิงส์เวย์ โฮสต์แอนด์คาราโอเกะ กับเพื่อนอีก 2 คน ในช่วงดึก ก่อนที่จะไปพักค้างคืนที่วีดีคอนโดมิเนียมกับเพื่อน
          วันที่ 25 พ.ย. 2563 ผู้ป่วยเดินทางกลับถึงที่พักดีคอนโดพิงค์ เวลาประมาณ 12.00 น. โดยเพื่อนมาส่ง หลังจากนั้นเวลา 15.15 น. เดินทางด้วยรถ (Grab3) ไปที่ศูนย์การค้าเซนทรัลเฟสติวัล 
- เวลา 15.24 น. เดินทางถึงเซนทรัลเฟสติวัล โดยเข้าประตูด้านร้าน KFC
- เวลา 15.26 15.29 น. เข้าไปดูสินค้าที่ร้าน H&M
- เวลา 15.32 น. กด ATM ที่ตู้ธนาคาร SCB ชั้น 3(หน้าธนาคารกรุงเทพ)
- เวลา 15.39 16.22 น. รับประทานชาบูที่ร้านชาบูชิ
- เวลา 15.36 18.45 น. ชมภาพยนตร์ที่เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ โรงที่ 6
- เวลา 18.47 19.16 น. เข้าวัตสันชั้น 4
- เวลา 19.23 19.42 น. เดินทางไป Food Hall
- เวลา 19.45 20.13 น. เดินทางไปร้าน CDS
- เวลา 20.15 20.24 น. ขึ้น Grab4 กลับ ดีคอนโดพิงค์
           วันที่ 26 พ.ย. 2563 ได้เดินโดย Grab3 ทางไปขอรับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด 19 ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสทั้งหมด จำนวน 306 ราย ในนี้มีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 85 ราย และได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว จำนวน 102 ราย ทราบผลการตรวจแล้ว 17 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงที่ไม่มีอาการจะต้องกักตัวทุกคน หากไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสถานที่กักกันผู้สัมผัสใกล้เสี่ยงสูงไว้แล้ว และมีผู้เข้ากักกันตนจำนวน 5 ราย
         ทั้งนี้        ผู้สัมผัสทุกรายจะต้องสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติจะถูกตรวจหาเชื้อซ้ำและแยกกักในโรงพยาบาล สำหรับผู้สัมผัสที่กักกันตนที่บ้านจะมีการประสานงานให้ทางโควิดหมู่บ้านเข้าไปดูแลและตรวจประเมินจนครบ 14 วันหลังสัมผัสผู้ป่วย

สสจ.เชียงใหม่ชี้ 5 จุดเสี่ยงเฝ้าระวังเชื้อโควิด-19

              นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สาเหตุที่มีการแจ้งรายละเอียดให้รับทราบได้ช้าเนื่องจากยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนโรคโดยทันที สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงดังที่ต้องเฝ้าระวัง มี 5 จุด ด้วยกันคือ 1. รถโดยสารประจำทางบริษัทกรีนบัส เชียงราย-เชียงใหม่ วันที่ 24 พ.ย. 63 2. ร้านคิงส์เวย์ โฮสต์แอนด์คาราโอเกะ วันที่ 24 พ.ย.63 3. โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เรื่องอีเรียมซิ่ง โรงที่ 6 เวลา 15.36-18.45 น. วันที่ 25 พ.ย. 63 4. ร้านชาบูชิ เซ็นทรัลเฟสติวัล วันที่ 25 พ.ย. 63 และ 5. ร้านวัตสัน เซ็นทรัลเฟสติวัล
             สำหรับผู้ที่ไปในสถานที่ดังกล่าว ขอให้ท่านกักกันตนเองจนกระทั่งครบ 14 วันหลังวันสัมผัส สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการ ให้โทรนัดหมายเพื่อตรวจในวันที่ 1 ธ.ค. 2563 (ตามระยะฟักตัวเฉลี่ย) โดยหากพบอาการผิดปกติระหว่างการกักกันให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติความเสี่ยงต่อบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) สสจ.เชียงใหม่ โทร 084-8053131, 084-8052121
           ทาง  คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่า ทางทีมงานยังคงดำเนินการสอบสวนค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม และยืนยันว่าทางสำนักงานสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมทั้งทางด้านการตรวจแลปและเวชภัณฑ์ต่างๆ ให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
           สำหรับมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้รับฟังความคิดเห็นทั้งภาคประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถป้องกันควบคุมโรคได้ โดยมีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด และเน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชน ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เข้ารับบริการสถานที่ต่างๆ ลงทะเบียนด้วย "ไทยชนะ" ทุกครั้ง

logoline