จีนเปิดศึกไวน์ออสเตรเลีย ขึ้นภาษีอื้อ

กระทรวงพาณิชย์จีนระบุวันนี้่ ( 27 พฤศจิกายน 2563 ) ว่าได้กำหนดมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดชั่วคราวต่อไวน์นำเข้าจากออสเตรเลียตั้งแต่วันพรุ่งนี้ โดยภาษีนำเข้าในส่วนนี้จะอยู่ระหว่าง 107.1 -  212.1 เปอร์เซ็นต์
กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในแถลงการณ์ที่ประกาศมาตรการเรื่องนี้ ระบุว่าจากการสอบสวน พบว่า " มีความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างการทุ่มตลาดไวน์กับความเสียหายที่เกิดขึ้น "
จากข้อมูลของ Wine Australia ซึ่งเป็นองค์กรของอุตสาหกรรมไวน์ออสเตรเลีย ระบุว่าจีนเป็นประเทศปลายทางที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออกไวน์ของออสเตรเลีย โดยคิดเป็น 39 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ 
ก่อนหน้านี้ ในเดือนสิงหาคม จีนเคยเปิดเผยว่าจะเริ่มสอบสวนเรื่องการอุดหนุนไวน์ของออสเตรเลีย หลังจากได้รับการร้องเรียนจากสมาคมอุตสาหกรรมไวน์จีน ก่อนหน้านี้ จีนก็ได้ประกาศไปแล้วเรื่องการสอบสวนการทุ่มตลาด เมื่อเห็นว่าไวน์ที่ขายในจีน มีราคาต่ำกว่าที่ขายในออสเตรเลีย

อุตสาหกรรมไวน์จีนได้ร้องขอให้ขีนขึ้นภาษีไวน์ออสเตรเลีย 202.7 เปอร์เซ็นต์เพื่อชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากไวน์ราคาถูกของออสเตรเลียที่ไหลท่วมตลาดจีนระหว่างปี 2558 ถึง 2562 
จีนได้ห้ามการนำเข้าถ่านหิน น้ำตาล ข้าวบาร์เลย์ กุ้งก้ามกราม ไวน์ ทองแดงและไม้ซุงจากออสเตรเลียอย่างไม่เป็นทางการมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยหลังการตรวจสอบข้าวบาร์เลย์ที่เริ่มต้นในปี 2561 และสรุปในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้มีการขึ้นภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด 73.6 เปอร์เซ็นต์ และภาษีตอบโต้อีก 6.9 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งก็รวมเท่ากับ 80 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนั้น จีนยังระงับการนำเข้าเนื้อวัวจากโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์รายใหญ่ 5 แห่งในรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์ในเดือนพฤษภาคมด้วย

ด้านออสเตรเลียบอกว่า "ผิดหวังอย่างมาก" กับการตัดสินใจของจีนที่ขึ้นอัตรภาษีนำเข้าสำหรับไวน์ออสเตรเลีย ที่ส่งผลให้ความตึงเครียดทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ ที่มีมากอยู่แล้ว ทวีความรุนแรงมากขึ้น
เดวิด ลิตเติลพราวด์ รัฐมนตรีเกษตรออสเตรเลียบอกในแถลงการณ์ว่า" การตัดสินใจวันนี้เป็นพัฒนาการที่น่าเป็นห่วงอย่างจริงจัง และเป็นสิ่งที่ออสเตรเลียจะต่อสู้อย่างจริงจัง รัฐบาลออสเตรเลียปฏิเสธข้อกล่าวหาใด ๆ อย่างเด็ดขาดว่าผู้ผลิตไวน์ของเรากำลังทุ่มผลิตภัณฑ์ไปยังจีน และเรายังคงเชื่อว่าไม่มีพื้นฐานหรือหลักฐานใด ๆ สำหรับการอ้างเรื่องแบบนี้"