27 พฤศจิกายน 2563 ช่วงบ่ายวันนี้ ที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลตำรวจโทรณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า 750,000 เม็ด ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 9 สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ในพื้นที่ จ.นราธิวาส
พลตำรวจโทรณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาดเป็นจุดพักยาและเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ระดมสรรพกาลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดมา
โดยเมื่อวันที่ 25 พ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันจับกุมนายอามีนซู ตะลีงอกะลี หรือมิง อายุ 28 ปี ชาว ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมด้วยของกลางยาบ้าประมาณ 750,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ที่ริมถนนทรายทอง 3 ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันทำการสืบสวนจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพฤติการณ์ในการลักลอบและลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือเข้ามาจำหน่ายให้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวนหลายราย พร้อมยึดยาเสพติดของกลางได้เป็นจำนวนมาก และได้ทำการสืบสวนขยายผลมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลทราบว่า ยังมีเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งมีพฤติการณ์ในการลักลอบ ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือเพื่อส่งจำหน่ายให้เครือข่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกจำนวนหลายราย จึงได้ร่วมกันสืบสวนมาโดยต่อเนื่อง กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า มีนายมิง หรือนายอามีนซู ตะลีงอกะลี ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และเพิ่งจะพ้นโทษในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาได้ไม่นาน ได้เตรียมการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมาก เพื่อส่งจำหน่ายให้เครือข่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ร่วมกันวางแผนทำการสืบสวนติดตามจับกุม และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางในขณะลักลอบขนยาเสพติด เพื่อส่งมอบให้กับเครือข่ายบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวอีกว่า ในการนี้ได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิด เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 รวมมูลค่าประมาณ 250,000 บาท และจะได้สืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับเครือข่ายที่ร่วมกระทำผิดและยังไม่ถูกจับกุมต่อไป