นักธุรกิจชง ‘สมุดปกขาว’ ให้รัฐบาลขับเคลื่อนประเทศ
การประชุมสัมนาหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ได้ข้อสรุปการขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกันก่อนชงสมุดปกขาวให้นายกรัฐมนตรี นำไปร่วมขับเคลื่อนประเทศ พร้อมอ้อนรัฐต่ออายุมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งเที่ยวปันสุข คนละครึ่ง นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศและเครือข่ายจัดการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 38 โดยกำหนด Theme การจัดงานสัมมนาฯ คือ "ไทยช่วยไทย คือ ไทยเท่" โดยได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ มุ่งเน้นในเรื่องของการปรับตัวรับวิถี New Normal เพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการเปลี่ยนโลกธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์โควิด-19
ทั้งนี้ หอการค้าไทย เตรียมสรุปจัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอต่อรัฐบาลมุ่งเน้นในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานภาครัฐด้วยการพัฒนาระบบ e-Government การขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนช่วยขับเคลื่อน Happy Model กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น รวมถึงเร่งแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน จากปัจจุบันที่ใช้ประโยชน์จากน้ำต้นทุนได้เพียง 7% ซึ่งถือเป็นปริมาณการใช้ประโยชน์ที่น้อย โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มการใช้งานให้ได้อย่างน้อยเป็น 14% ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาล ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างเต็มที่ หลังจากแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกเริ่มมีการปรับฟื้นตัวดีขึ้น การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยทางหอการค้าไทยต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนและเชื่อมโยง Digital platform ระหว่างภาครัฐและเอกชน เช่น Application TAGTHAi (ทักทาย) เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการสื่อสารที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และในวันนี้ (27 พ.ย.) ทางหอการค้าไทยจะนำเสนอสมุดปกขาวผ่านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเพื่อส่งต่อถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อทำงานร่วมกันได้ต่อไป
สำหรับ การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศในครั้งนี้ หอการค้าไทยได้ขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนช่วยกันโปรโมทและขับเคลื่อน Happy Model 4 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย 1.กินดี 2.อยู่ดี 3.ออกกำลังกายดี 4.แบ่งปันสิ่งดีๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น นอกจากนี้ เห็นว่ารัฐบาลควรต้องเร่งพัฒนาระบบ e-Government เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรัฐ รวมทั้งการเร่งแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนด้วย
นายกลินท์ กล่าวด้วยว่า จากการการระดมความคิดเห็นการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ รับวิถี new normal ได้มีข้อเสนอแนะเพื่อให้ภาครัฐดำเนินการ ดังนี้ 1. การกระตุ้นค่าใช้จ่ายเศรษฐกิจ อาทิ ขยายระยะเวลามาตรการโครงการคนละครึ่ง, ขยายระยะเวลามาตรการโครงการเที่ยวปันสุข, เพิ่มสิทธิประโยชน์มาตรการช็อปดีมีคืน (ขยายปี 2564) และส่งเสริมมาตรการสินเชื่อ SMEs เป็นต้น 2. การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน 3. การปรับปรุงกฎระเบียบ และกระบวนการต่าง ๆ ของภาครัฐ (Ease of doing business) เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว