อิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ รัฐมนตรีอาวุโสฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ประกาศเมื่อวันพุธว่า จะเริ่มการตรวจคัดกรองโควิด-19 เฟสแรกแก่แรงงานต่างชาติ 888,342 คนในรัฐสลังงอร์,เขตลาบวน,กรุงกัวลาลัมเปอร์,รัฐปีนัง และรัฐเนกรี เซมบิลัน โดยสำนักงานประกันสังคมจะรับผิดชอบค่าชุดตรวจแบบรู้ผลเร็วแก่คนงานรายละ 60 ริงกิตหรือ 450 บาท และยอมรับว่าเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากหากมีแรงงานต่างชาติแค่เพียง 1% ติดโควิด-19 เพราะต้องจัดเตรียมสถานที่สำหรับกักตัวคนจำนวนมาก
นอกจากนี้เขาเรียกร้องให้นายจ้างตรวจโควิด-19 ให้กับคนงาน โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากทางการ เพราะการตรวจอย่างรวดเร็วจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เพราะหากรอจนเกิดการระบาดแล้ว โรงงานจะต้องปิดเพื่อควบคุมการระบาด ซึ่งจะได้รับความเสียหายมากกว่า
ขณะเดียวกันกระทรวงทรัพยากรมนุษย์เริ่มการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยมาตรการขั้นต่ำหรับที่้พักแรงงานในวันนี้ ซึ่งหากนายจ้างละเมิดข้อบังคับโดยปล่อยให้แรงงานอาศัยอยู่อย่างแออัดภายในหอพัก จะต้องรับโทษปรับสูงถึง 50,000 ริงกิต หรือ 375,000 บาทต่อแรงงาน 1 คน
อิสมาอิล ซาบรี ยังระบุด้วยว่า โรงงานของบริษัท ท็อป โกลฟ ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของโลก เป็นแหล่งแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชื่อมโยงกลุ่มนี้มากถึง 1,511 คนจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,188 คนทั่วประเทศในวันเดียว และในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,623 คนในรัฐสลังงอร์ เป็นแรงงานต่างชาติในท็อป โกลฟมากถึง 1,511 คน
บริษัทได้รับคำสั่งให้ปิดโรงงาน 28 แห่งจาก 41 แห่งในมาเลเซียระหว่างตรวจคัดกรองพนักงานและกักตัวนาน 14 วัน โดยจนถึงวันที่ 25 พ.ย.ตรวจคัดกรองแล้ว 5,795 คน ซึ่ง 2,684 คนมีผลตรวจเป็นบวก และบริษัทยอมรับว่าการปิดโรงงานจะส่งผลกระทบให้เกิดการขาดแคลนถุงมือยางเล็กน้อย และอาจทำให้ราคาสูงขึ้นได้