25 พฤศจิกายน 2563 ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า อยากเรียกร้องให้สังคม ร่วมกันติดตาม การนัดอ่านคำวินิจฉัยคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยศาลรัฐธรรมนูญ ในวันพุธที่ 2 ธันวาคม เพราะเรื่องนี้ น่าจะสะท้อนบางสิ่งได้ โดยข้อเท็จจริงที่อยากให้สังคมศึกษาก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาศัยบ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ถนน วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นบ้านพักทางราชการทหาร ,
บ้านนี้เป็นบ้านพักอาศัยของ พล.อ.ประยุทธ์ และครอบครัว ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึงปัจจุบัน และเกษียณอายุราชการมาตั้งแต่ 30 กันยายน 2557 , ไม่เสียค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพักอาศัยให้ทางราชการ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557เป็นต้นมา คิดเป็นมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ตาม พ.ร.บ. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่กำหนดเอาไว้
เข้าข่ายรับประโยชน์ใดจากหน่วยงานราชการ อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ , เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินของศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ,เป็นเหตุทำให้ความเป็น นายกฯและ รมว.กลาโหม สิ้นสุดลง เฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้การอ้างว่าการพักอยู่ในค่ายทหาร มีความปลอดภัยกว่านั้นฟังไม่ขึ้น เพราะนายกฯ ท่านอื่นก็พักอาศัยอยู่บ้านพักของตัวเองได้ ขณะที่มีรายงานจากสื่อหลายแห่งระบุตรงกันว่า ในปี 2555 กองทัพบก ได้มีการทำเรื่องเปลี่ยนสภาพ บ้านพักสวัสดิการ ให้เป็นบ้านพักรับรอง ซึ่งเป็นช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ. เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในกองทัพบก ขณะเดียวกันนายพลหลายคนในกองทัพ ไม่ได้รับอภิสิทธิ์เช่นนี้ หากเทียบเคียงกรณีคดีของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ปมลูกจ้าง-ค่าตอบแทน ที่จัดรายการชิมไปบ่นไป ออกอากาศทางทีวี และรายการทีวียกโขยงหกโมงเช้า ในอดีตเป็นบรรทัดฐาน กล่าวได้ว่าผลประโยชน์ที่ นายสมัคร ได้รับในขณะนั้น ยังไม่เท่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับ จากข้อมูล ข้อเท็จจริงเหล่านี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าติดตาม ต่อการฟังผลคำวินิจฉัยที่จะมีขึ้น โดยศาลรัฐธรรมนูญ