สำหรับประเทศไทยในช่วงก่อนหน้านี้สารเสพติดอย่าง "เคตามีน" ไม่ใช่สารเสพติดที่แพร่หลายมากนักจึงทำให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์หรือเครื่องมือในการตรวจพิสูจน์แต่ในช่วงที่ผ่านมา มีการพบการใช้สารเคตามีนเพิ่มขึ้น จึงทำให้อาจจะเกิดความผิดพลาดได้
สำหรับราคาเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจหาสารเสพติด จากการตรวจสอบของ "เนชั่น ทีวี" พบว่าชุดตรวจหาสารเสพติดที่ใช้ตรวจจากทางปัสสาวะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบจุ่ม และ แบบหยอด
"แบบจุ่ม"หรือที่เรียกว่า Strip ประกอบด้วยแถบทดสอบเป็นแผ่นยาวและแคบวิธีการทดสอบ คือให้นำปัสสาวะใส่ในภาชนะ ก่อนจะจุ่มแถบทดสอบลงไปในปัสสาวะโดยให้ปลายลูกศรชี้ลง และระวังไม่ให้ปัสสาวะสูงเลยขีดที่กำหนดไว้บนแถบจากนั้นวางแถบทดสอบในแนวราบ รอ 5 นาทีแล้วจึงอ่านผล
โดยข้อดีของชุดตรวจแบบจุ่ม คือ มีราคาถูก อยู่ที่ประมาณ 3070 บาทต่อชิ้น และสามารถตรวจหาสารแอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีนที่ปริมาณตั้งแต่ 1,000นาโนกรัม/มิลลิลิตร แต่ก็มีข้อเสียก็คือแถบจุ่มอาจเสียหายได้ง่ายจากการเก็บรักษาไม่ดี เช่น โดนความชื้น สัมผัสกับสารเคมีหรือหักงอ ทำให้มีโอกาสเสื่อมประสิทธิภาพได้
ข้อดีของชุดตรวจแบบหยอด คือตลับตรวจเสียหายหรือเสื่อมสภาพได้ยากกว่าแบบจุ่ม ซึ่งวิธีนี้สามารถตรวจหาสารแอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีนที่ปริมาณตั้งแต่1,000 นาโนกรัม/มิลลิลิตร แต่ข้อเสียคือ มีราคาสูงกว่าแบบจุ่มโดยราคาต่อชิ้นจะอยู่ที่ประมาณ 100 120 บาท
ข้อดีของชุดตรวจแบบหยอดคือ ตลับตรวจเสียหายหรือเสื่อมสภาพได้ยากกว่าแบบจุ่ม ซึ่งวิธีนี้สามารถตรวจหาสารแอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีนที่ปริมาณตั้งแต่1,000 นาโนกรัม/มิลลิลิตร แต่ข้อเสียคือ มีราคาสูงกว่าแบบจุ่ม โดยราคาต่อชิ้นจะอยู่ที่ประมาณ100 120 บาท