เปิดไทม์ไลน์ รธน.ใหม่ ส่อยื้อถึงปลายปี 65

24 พฤศจิกายน 2563 มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ที่สมาชิกรัฐสภาลงมติรับหลักการ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.นั้นโดยในวันนี้ (24 พ.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฯ นัดแรก เวลา 09.30 น. ซึ่งกมธ.ประกอบด้วย ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ 30 คน และ ส.ว.อีก 15 คน รวมเป็น 45 คน

ทั้งนี้ มีรายงานเบื้องต้นว่า รัฐบาลและ ส.ว. ซึ่งมีเสียงรวมกันอย่างน้อย 23 เสียง แบ่งเป็น ส.ว. 15 เสียง และพรรคพลังประชารัฐ 8 เสียง นอกจากนั้น ยังมีพรรคประชาธิปัตย์อีก 3 เสียง สนับสนุนให้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ. เนื่องจากมองว่านายวิรัช เป็นประธานวิปรัฐบาล ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยังเคยเป็นประธานกมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการด้วย

สำหรับไทม์ไลน์การแก้รัฐธรรมนูญ เริ่มวันที่ 24 พ.ย.นั้น จะประชุมกมธ.นัดแรก โดยมีกรอบเวลาพิจารณาในชั้นแปรญัตติ หรือ วาระ 2 จำนวน 45 วัน แต่ขอขยายเวลาได้ไม่มีกำหนด นับเวลา 45 วัน จากวันที่ 24 พ.ย. จะไปตกที่วันที่ 1 ม.ค. 2564 หากไม่มีการขอขยายเวลา จะมีการส่งร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการพิจารณาของ กมธ. แล้ว เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา เพื่ออภิปรายและลงมติวาระ 2 แบบรายมาตรา ในวันที่ 18-19 ม.ค.

อย่างไรก็ตาม เมื่อลงมติรายมาตราเสร็จเรียบร้อย จะต้องทิ้งไว้ 15 วันตามรัฐธรรมนูญ ก่อนนัดลงมติวาระ 3 ในวันที่ 4 ก.พ. หากที่ประชุมให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือ 367 เสียงขึ้นไป โดยมี ส.ว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือราว 82 คน และ ส.ส.จากพรรคการเมืองที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และไม่ได้เป็นประธานกับรองประธานสภาฯ อีก 20% ก็จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 นำไปสู่การลงประชามติ ภายใน 120 วัน คือ ภายในวันที่ 5 มิ.ย. 2564

หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ก็จะมีผลบังคับใช้ จากนั้นจะเริ่มกระบวนการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. ตั้งแต่รับสมัคร ไปจนถึงการลงคะแนนเลือกตั้ง ใช้เวลาอีกอย่างน้อยๆ 3 เดือน เมื่อได้ ส.ส.ร.แล้ว จะใช้เวลาอีก 240 วันในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กรอบเวลาก็จะไปตกที่ประมาณกลางปี 2565 เมื่อจัดทำรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น อาจต้องทำประชามติอีก 1 ครั้ง ภายใน 120 วัน ก็คือ 4 เดือน กว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้หลังผ่านประชามติ ก็ราวๆ ไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 หลังจากนั้นจึงยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ได้ราวๆ ปี 2566 ซึ่งก็ใกล้เคียงกับวาระของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอดี