วัคซีนออกซ์ฟอร์ด ประสิทธิภาพไม่สูง แต่....

เท่ากับว่าเรื่องนี้เป็นทั้งชัยชนะและความผิดหวัง หลังจากวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดิร์นนา มีประสิทธิภาพมากถึง 95%
แต่ข้อดีของวัคซีนอ๊อกซ์ฟอร์ดก็คือมันมีราคาถูกกว่ามาก และง่ายต่อการจัดเก็บและจัดส่งไปทั่วทุกมุมโลก มากกว่าวัคซีนอีก 2 ตัวที่ว่า
ดังนั้น มันจึงยังคงมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับการแพร่ระบาด หากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแล
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจที่ชี้ให้เห็นว่า หากการพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ วัคซีนก็สามารถเพิ่มการป้องกันได้ถึง 90%
นักวิจัยของอ็อกซ์ฟอร์ดได้ใช้เวลาในการพัฒนาวัคซีนตัวนี้ประมาณ 10 เดือน จากปกติที่ต้องใช้เวลานานนับสิบปี
ศาสตราจารย์ซาราห์ กิลเบิร์ต ผู้ออกแบบวัคซีนตัวนี้บอกว่า " การประกาศในวันนี้ทำให้เราเข้าใกล้เวลาที่เราสามารถใช้วัคซีนเพื่อยุติความหายนะที่เกิดจากได้อีกขั้น"
รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้สั่งซื้อวัคซีนอ็อกซ์ฟอร์ดล่วงหน้า 100 ล้านชุด ซึ่งเพียงพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้คน 50 ล้านคน
ในการทดสอบวัคซีน มีการใช้อาสาสมัครมากกว่า 20,000 คน โดยครึ่งหนึ่งอยู่ในสหราชอาณาจักร ส่วนที่เหลืออยู่ในบราซิล
ในการทดสอบ ปรากฏมีผู้ป่วยโรคโควิด 30 คนในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม และ 101 คน ในกลุ่มผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนหลอกนักวิจัยสรุปว่าประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของวัคซีนนี้ อยู่ที่ 70%

รายงานบอกว่า เมื่ออาสาสมัครได้รับวัคซีน " แรง" สองครั้ง ประสิทธิภาพของการป้องกันคือ 62% แต่ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นเป็น 90% หากอาสาสมัครได้รับวัคซีนที่ " อ่อน " ตามด้วยวัคซีนที่ " แรง " ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าเหตุใดจึงมีความแตกต่าง
ศาสตราจารย์แอนดรูว์ โพลลาร์ดหัวหน้าผู้ตรวจสอบบอกว่า " เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลลัพธ์เหล่านี้"เขาบอกว่าข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ 90% นั้น "น่าสนใจ" และมันหมายความว่า " เราจะมีปริมาณวัคซีนมากขึ้นสำหรับการแจกจ่าย"
ปัจจุบัน ในสหราชอาณาจักรมีวัคซีนแล้ว 4 ล้านเข็มพร้อมจัดส่ง และอีก 96 ล้านเข็มกำลังจะตามมา
แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกว่าวัคซีนจะได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งจะประเมินความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการผลิตวัคซีนที่ได้มาตรฐานสูง ซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

หลังจากที่ไฟเซอร์และโมเดอร์นาผลิตวัคซีนที่ให้การป้องกัน 95 % ตัวเลข 70% จึงค่อนข้างน่าผิดหวังแต่ประสิทธิภาพที่สูงกว่า 50% ก็ถือว่าเป็นชัยชนะแล้ว เมื่อเดือนที่แล้ว
แต่วัคซีนตัวนี้สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิตู้เย็น ซึ่งหมายความว่ามันสามารถกระจายไปยังทุกมุมโลกได้ ซึ่งแตกต่างจากวัคซีนทั้งสองตัวแรก ซึ่งจำเป็นต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เย็นกว่ามาก