22 พฤศจิกายน 2563 นายสุรพงศ์ เจริญการยนต์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสงขลา เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว" หลังจากฝนตกหนักจนทำให้น้ำท่วมขังหลายจุดในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ว่าเกิดจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักติดต่อกันเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้ที่สถานีคอหงส์วัดได้ 130 มิลลิเมตร ทำให้น้ำระบายไม่ทัน เป็นน้ำรอระบาย
"เนื่องจากที่ผ่านมาเรารักษาระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาอยู่ที่ 2.3-2.5 เมตร แต่เมื่อวานระดับน้ำเพิ่มขึ้นมาถึงระดับประมาณ 4 เมตรตอนนี้ระดับน้ำอยู่ในภาวะทรงตัวหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม"
นายสุรพงศ์ กล่าวและว่า ทำให้ในขณะนี้ได้ติดตามสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาเพิ่มเติมลงมาอีกก็จะต้องพิจารณาในการเปิดประตูระบายน้ำคลองร.1 เพื่อระบายน้ำจากคลองอู่ตะเภา
"ตอนนี้คลองอู่ตะเภายังสามารถรับน้ำได้ แต่ก็กังวลว่าถ้ามีฝนเติมลงมาก็จะอาจจะต้องเปิดคลองร.1ช่วย แม้ว่าการก่อสร้างจะยังไม่เรียบร้อยแต่เราก็พร้อมที่จะเปิดตลอด"
ซึ่งศักภาพของคลองร.1 สามารถช่วยได้เยอะ สามารถระบายน้ำได้ประมาณ 1,000 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที ส่วนคลองอู่ตะเภาสามารถระบายได้ที่ 465 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที
ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสงขลา กล่าวว่า จุดที่จะมีการพิจารณาเปิดประตูระบายน้ำคลองร.1 ช่วยระบายน้ำจากคลองอู่ตะเภานั้นกำหนดไว้ที่ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาอยู่ที่ระดับ 5 เมตร "สถานการณ์ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภา ณ ปัจจุบันถือว่ายังอยู่ในภาวะปกติ เพียงแต่ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ปัจจุบันระดับในคลองอู่ตะเภาอยู่ที่ 4 เมตร ถ้าขึ้นมา 5 เมตรเมื่อไหร่ก็ต้องเปิดคลองร.1"
เนื่องจากเกรงว่าหากระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาขึ้นมาที่ 6.5 เมตร น้ำมันจะเอ่อล้นที่คลองหวะ และน้ำจะไหลเข้าเมืองหาดใหญ่ทางด้านทางลอดรถไฟที่จันทร์วิโรจน์ จึงจะไม่ให้ระดับน้ำถึงที่ระดับ 6.5 เมตร"ตรงคลองหวะจะเป็นจุดอ่อน เนื่องจากน้ำจากคลองหวะก็ไหลลงคลองอู่ตะเภาบริเวณหน้าประตูระบายน้ำคลองร.1ด้วย ถ้าน้ำในคลองอูตะเภาเยอะน้ำจากคลองหวะไหลลงช้ามันจะเอ่อเข้าตัวเมืองหาดใหญ่"
ในขณะที่น้ำในอ่างสะเดาปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 76 เปอร์เซ็นต์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสงขลา กล่าว