22 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่ารายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ. จังหวัดนครราชสีมา ในวันนี้พบว่า ผู้สมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.นครราชสีมา ทั้ง 5 คน ยังอาศัยสื่อโซเชียลเป็นพื้นที่หาเสียงหลัก อย่างเช่น ดร.สาธิต ปิติวรา ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ 1 และหัวหน้ากลุ่มก้าวหน้านครราชสีมา หลังจากซุ่มเงียบประชุมลับกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในโอกาสเดินทางกลับมาจากการตระเวนช่วยผู้สมัคร อบจ.เขตภาคอีสาน
ได้มาชี้แนะยุทธศาสตร์การหาเสียงแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ. และ ส.อบจ.นครราชสีมา โดยย้ำหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ห้ามซื้อสิทธิ์ขายเสียง ให้ดำเนินการเมืองแบบใหม่ เพื่อให้การเมืองท้องถิ่นปลอดการคอรัปชั่นทุกรูปแบบ ส่วนแนวทางเน้นรูปแบบการหาเสียงบนสังคมสื่อออนไลน์ เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์รักประชาธิปไตย และต้องการเห็นการเมืองแบบใหม่บริสุทธิ์โปร่งใส
ขณะที่นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ 2 ยังคงเดินหน้าลงพื้นที่พบปะพี่น้องชาวโคราชอย่างเข้มข้น ซึ่งวันนี้ช่วงเช้าลงพื้นที่ 4 ตำบลของอำเภอพิมาย ได้แก่ ต.หนองระเวียง , ต.ในเมือง ,ต.กระเบื้องใหญ่ และ ต.โบสถ์ จากนั้น ช่วงบ่าย ไปเจาะพื้นที่หาเสียงในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา อีก 4 จุด โดยชูนโยบายหลัก "สร้างคน สร้างเศรษฐกิจ สร้างเมืองโคราช" ซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวโคราชในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังหาเสียงผ่านสื่อโซเชียล ในรูปแบบ "หน่อย ยลดา พาเที่ยว" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลักดันการท่องเที่ยวไปสู่แต่ละชุมชน ให้ชาวโซเชียลได้ชมของดีของเด่นของเมืองโคราชไปในตัว ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธการหาเสียง ที่ได้ใจชาวบ้านแต่ละชุนไปแบบเต็มๆ
ส่วน "หมอแหยง" นพ.สำเริง แหยงกระโทก ผู้สมัครฯ เบอร์ 3 ก็เร่งหาเสียงพบปะพี่น้องประชาชนด้วยเช่นกัน โดยเชิญชวนคนโคราชออกมา "หยุดสภาผู้รับเหมา" เอา "สภาประชาชน" มาเปลี่ยนแปลงโคราช โดยชูประเด็นเรื่อง 3 ซ่อม เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนของคนโคราช ได้แก่ 1.ซ่อมเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของชาวโคราช 2.ซ่อมคุณภาพชีวิตโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ในภารกิจของ อบจ. ทั้งเรื่องถนนหนทาง, เรื่องน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร และ 3.ซ่อมการศึกษา พัฒนาโรงเรียน อบจ.58 แห่งที่อยู่ในความดูแล ให้นักเรียนของ อบจ.มีทักษะวิชาการ และอาชีพ ต่อยอดไปจนถึงระดับ ป.ตรี ชาวบ้านสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาจนจบ ป.ตรี เพื่อนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ
ส่วนเบอร์ 4 นายวิฑูร ชาติปฏิมาพงษ์ หรือ แก้ว ด๊ะดาด ผู้สมัครกลุ่มอิสระ อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา 3 สมัย ยังคงทำงานในรูปแบบ"อบจ. Connect คนโคราช 24 ชม." และเริ่มออกมาแอ็คชั่นผ่านสื่อโซเชียลมากขึ้น โดยยังชูนโยบาย สร้างแบรนด์สินค้า เมด อิน โคราช สู่ระดับโลก ,ผลักดันระบบขนส่งมวลชนในเขตเมือง เชื่อมต่อไประหว่างอำเภอ ,เพิ่มพื้นที่สีเขียวทุกอำเภอ และล่าสุด ได้นำนักกีฬาโอลิมปิกชาวโคราช โค้ช นายกสมาคมกีฬา มาช่วยยืนยันให้กับนโยบายอีกด้วย เพื่อผลักดันคนโคราชสู่โอลิมปิก โดยสนับสนุนให้คนโคราชทุกคนมีโอกาสค้นพบศักยภาพของตนเอง
และสำหรับนายตรีเพชร พรหมนิติพันธุ์ ผู้สมัครฯ เบอร์ 5 มีความเคลื่อนไหวผ่านสื่อโซเชียลเช่นกัน แต่ยังไม่เข้มข้นมากนัก ชูนโยบาย "เรียนฟรี มีรายได้ จบไปมีงานทำ" ซึ่งเป็นนโยบายที่สามารถทำให้เป็นจริงได้แต่ยังไม่มีใครทำ โดยพร้อมจะสนับสนุนผลักดันงบประมาณทางการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วถึงทุกโรงเรียน ทั้งในสังกัดและนอกสังกัด อบจ.