ยอดโควิดพุ่งต่อเนื่อง "หมอธีระ" จี้รัฐเร่งพัฒนาระบบตรวจคัดกรอง

22 พฤศจิกายน 2563 รศ.ดร.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกว่า

"สถานการณ์ทั่วโลก 22 พฤศจิกายน 2563
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มอีกถึง 593,535 คน รวมแล้วตอนนี้ 58,459,059 คน ยอดตายรวม 1,385,635 คน
อเมริกา ติดเพิ่ม 181,035 คน รวม 12,435,214 คน ตายเพิ่มอีกถึง 1,607 คน ยอดตายรวม 261,745 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 45,101 คน รวม 9,095,543 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 32,622 คน รวม 6,052,786 คน
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 17,881 คน รวม 2,127,051 คน
รัสเซีย ยังติดเพิ่มทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง 24,822 คน รวม 2,064,748 คน
อันดับ 6-10 ตอนนี้เป็น สเปน สหราชอาณาจักร อาร์เจนตินา อิตาลี และโคลอมเบีย ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลายหมื่นต่อวันเยอรมัน เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ออสเตรีย โปแลนด์ แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเมียนมาร์ ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่นหลายต่อหลายประเทศในยุโรป ก็ยังติดกันหลักร้อยถึงหลักพัน โดยรวมอาการยังทรงๆ เช่นเดิม เกาหลีใต้ติดกันเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ เวียดนาม และนิวซีแลนด์ ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
ส่วนสถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 1,434 คน ตายเพิ่มอีก 27 คน ตอนนี้ยอดรวม 77,848 คน ตายไป 1,722 คน อัตราตายตอนนี้ 2.2%หากสังเกตจากข่าวการระบาดของหลายประเทศ พบว่าช่วงนี้มีการระบาดจากกิจกรรมกลุ่มทั้งในระดับครอบครัว การสังสรรค์กับเพื่อนฝูงตามสถานบันเทิงต่างๆ และงานปาร์ตี้มากขึ้น
มีการเตือนกันมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ากำลังจะเข้าสู่หน้าเทศกาลต่างๆ ช่วงปลายปี ตั้งแต่ Thanksgiving ต่อด้วยคริสตมาสและปีใหม่ สำหรับชาวตะวันตก ผนวกกับอากาศที่เย็นลง เชื่อว่าการระบาดจะมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นแน่"

รศ.ดร.ธีระ ระบุอีกว่า "สำหรับเมืองไทย เรามีทั้งหนาวสลับกับร้อนและฝน มีมาตรการกระตุ้นให้เที่ยวมากขึ้น จับจ่ายซื้อขายสินค้าบริการต่างๆ มากขึ้น กิจกรรมกลุ่มมากขึ้น และแน่นอนว่าเทศกาลต่างๆ ทั้งของไทยของสากล เรามีครบถ้วน ดังนั้นจึงต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังใส่หน้ากากเสมอ พกเจลล้างมือ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พบคนน้อยๆ สั้นๆ เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจรักษา
ในส่วนของรัฐนั้น ผมประเมินว่า ระบบการตรวจคัดกรองโรคนั้นยังเข้าถึงได้ยาก แม้ประชาชนจะประเมินตนเองว่ามีความเสี่ยง หรือเกิดมีอาการไม่สบาย การจะไปตรวจนั้นมีความยุ่งยาก เสียค่าใช้จ่ายทางอ้อมเยอะ ระบบในลักษณะปัจจุบันไม่เอื้อให้เกิดการเข้าถึง และไม่ครอบคลุม หากเกิดปัญหาการระบาดขึ้นมา กว่าเราจะรู้ตัวก็มักกระจายไปมากแล้ว เฉกเช่นเดียวกับบทเรียนที่เห็นจากหลายต่อหลายประเทศที่ระบาดซ้ำ บทบาทของหน่วยงานรัฐในตอนนี้คือ เร่งพัฒนาระบบตรวจคัดกรองให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ หลากหลายรูปแบบ และทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงบริการ ลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อประชาชน
นอกจากจะต้องเลี่ยงนโยบายหรือมาตรการที่จะนำความเสี่ยงเข้าสู่ประเทศเพื่อแลกเงิน เช่น การนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา การลดวันกักตัวหรือไม่กักตัว ฯลฯ หากรัฐทำในสิ่งที่ควรทำ และประชาชนร่วมกันป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง เราก็จะมียิ้มแห่งความสุขและปลอดภัยไปด้วยกัน"