ติด"โควิด-19"ทั่วโลกทะลุ 57 ล้านคน สหรัฐฯ-ยุโรปอ่วม

21 พฤศจิกายน 2563 สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ติดเชื้อใหม่ทำสถิติมากกว่า 640,000 คน ติดเชื้อสะสมมากกว่า 57 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 1 ล้าน 3 แสนคน สหรัฐฯ เป็นอันดับ 1 ติดเชื้อสะสมมากกว่า 12 ล้าน 2 แสนคน เสียชีวิตมากกว่า 260,000 คน
ที่เมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินนีโซตา บุคลากรการแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆ ต้องเรียกร้องให้ครอยครัวผู้ป่วยให้ความร่วมมือกับกฎใหม่ที่ออกมาเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 เพราะตอนนี้ มีบุคคลากร 800 คน ที่ไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งมีทั้งผู้ติดเชื้อแล้วและผู้มีโอกาสติดเชื้อพยาบาลคนหนึ่งบอกว่า ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ตลอดการทำงาน 31 ปี ที่พวกเธอต้องทำงานหนักเป็น 2 เท่า เพราะขาดแคลนบุคลากร
ส่วนรัฐเท็กซัส พบว่า มีอยู่ 254 เคาน์ตี้ ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด ก่อนถึงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า โดยชาร์ตของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ย 1 เคสต่อ 1 แสนคน ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ 127 เคาน์ตี้ ที่เป็นสีแดง ซึ่งเป็นจุดที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด

ส่วนยุโรป สวีเดนกลายเป็นประเทศที่มีอัตราผู้ติดเชื้อแซงหน้าฝรั่งเศสกับอังกฤษ หลังเพิกเฉยมาตรการล็อคดาวน์ โดยมีผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยวันละ 393 คน ต่อประชากร 1 ล้านคน ขณะที่อังกฤษเฉลี่ยวันละ 337 คน ต่อประชากร 1 ล้านคน และฝรั่งเศส 324 คน ต่อประชากร 1 ล้านคน และผู้ป่วยในโรงพยาบาลก็เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในสัปดาห์เดียว ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดจะอยู่ที่มากกว่า 290,000 คน เสียชีวิต 3,992 คน
อเมริกาใต้ บราซิลติดเชื้อสะสมทะลุ 6 ล้าน เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯและอินเดีย และผู้ติดเชื้อใหม่ยังพุ่งต่อเนื่อง ขณะที่เม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตทะลุ 1 แสนคน ในวันเดียว หลังจากผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่งทะลุ 1 ล้านคน เมื่อไม่กี่วันก่อน