svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

'6 กองร้อย 3 ผลัด' 900 นาย คุมม็อบราชประสงค์ พรุ่งนี้

20 พฤศจิกายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นครบาลวางอคฝ.6 กองร้อย จัดหมุนเวียน 3 ผลัด รวมตร.น้ำหวานดูแลม็อบราชประสงค์พรุ่งนี้ ชี้ม็อบเกียกกาย ยังไม่แจ้งข้อหา 112 มีแค่ฝ่าฝืนพรบ.ชุมนุม คาดมี 14 ราย เร่งประสานสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำ ส่วนเสื้อชมพู่พกปืน คือการ์ด "ราษฎร" ความสนิทสนมกับผู้ชุมนุมเป็นตัวชี้พฤติการณ์

20 พฤศจิกายน 2563 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษกนครบาล เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมการดูแลการชุมนุมกลุ่ม 'นักเรียนเลว' บริเวณแยกราษฎร์ประสงค์ในวันพรุ่งนี้(21 พ.ย.) ว่า เบื้องต้น ตำรวจได้จัดเตรียมกำลัง จากกองร้อยควบคุมฝูงชน(อคฝ.) ผลัดละ 6 กองร้อย หรือประมาณ 900 คนสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันจำนวน 3 ผลัด โดยมีกองร้อยน้ำหวานหรือกำลังควบคุมฝูงชน ซึ่งเป็นตำรวจหญิง มาดูแลเยาวชนที่มาร่วมการชุมนุม 
นอกจากนี้ มีผู้พิพากษาสมทบจากศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมาร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมดังกล่าว ส่วนการยื่นขออนุญาตชุมนุมนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการขออนุญาตยื่นการชุมนุมกับทางเจ้าพนักงานผู้ดูแลรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะแต่อย่างใด 
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการใช้กฎหมาย ม.112 กับผู้ชุมนุม พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหมือนเฟคนิวส์ (fake news) ระบุ มีผู้เข้าร่วมชุมนุม 4 คน มารับทราบข้อหา คดี ม.112 แต่ทั้งที่จริงแล้วเป็นการดำเนินคดีฝ่าฝืนการชุมนุม ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เท่านั้น 
ส่วนที่กลุ่ม 'นักเรียนเลว' โพสต์ภาพหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 30 พฤศจิกายน  ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.ปิยะ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเรียกเพื่อแจ้งข้อหา ตาม ม. 112 แต่เป็นข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุม  ทั้งนี้ ตำรวจได้มีการประสานทางอัยการ เจ้าหน้าที่พิทักษ์สิทธิเด็กและเยาวชน ผู้ปกครองร่วมสอบปากคำเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ โดยที่ไม่มีการใช้ความรุนแรงกับเด็กและเยาวชนอย่างแน่นอน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการดำเนินคดี ม.112 กับกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย หากมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะ ม.112 ต้องมีการดำเนินการพิจารณาส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา ซึ่งทางบช.น.ไม่สามารถดำเนินการเองโดยลำพังได้ แต่ต้องมีการพิจารณาเป็นรูปแบบคณะกรรมการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะเป็นผู้กำหนดแนวทางในการดำเนินคดีกรณีดังกล่าว 
ส่วนที่มีการอ้างว่าชายสวมเสื้อชมพู เป็นกลุ่มคนเสื้อเหลืองนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดของชายใส่เสื้อชมพู ที่ใช้อาวุธปืนยิง ยืนยันว่า เป็นการ์ดกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎร  เนื่องจากพบว่ามีการพูดคุยกันกับทางกลุ่มการ์ดของกลุ่มราษฎร นอกจากนี้ ยังมีคนคอยระวังหลังหรือชุดโคฟเวอร์ แต่เป็นไปได้ว่าระหว่างที่ใช้อาวุธปืนยิงออกไปนัดแรกเกิดพลาด ทำให้วิถีกระสุนหันเข้ามาหาทางฝั่งเดียวกัน ก่อนที่จะยิงต่ออีก 2-3 นัด ไปยังฝั่งกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลือง 
ขอยืนยัน แม้แต่ตำรวจก็ไม่สามารถเข้าไปยังบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีกลุ่มเสื้อเหลืองอยู่ในพื้นที่ของกลุ่ม 'ราษฎร' 

ส่วนการดำเนินคดีผู้ชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภานั้น คาดว่าจะมีผู้ถูกดำเนินคดีประมาณ 14 ราย ส่วนใหญ่เป็นแกนนำที่ปราศรัยการชุมนุมกลุ่ม 'ราษฎร' ส่วนกรณีชายเสื้อสีชมพูใช้อาวุธปืนยิงระหว่างการปะทะแยกเป็นอีกกรณีหนึ่ง ทั้งนี้ ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป

logoline