เหตุการณ์ในครั้งนั้น ถูกเรียกว่า "ชี้คดาวน์" (Sheikhdown) ซึ่งหมายถึงเหล่าเจ้าชายที่มีฐานะมั่งคั่ง ถูกล็อคตัวไว้ในโรงแรมหรู "ริทซ์-คาลตัน" ในกรุงริยาร์ด เมื่อปี 2560 ตามคำสั่งของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน หรือที่รู้จักกันในพระนามย่อ ว่า "MBS" และแม้จะอ้างว่าเป็นการกวาดล้างการคอรัปชั่น แต่กลับถูกมองว่าเป็นการยึดอำนาจและกำจัดเสี้ยนหนามของมกุฎราชกุมาร
บรรดาเจ้าชายที่มีฐานะมั่งคั่ง 381 คน รวมทั้งเจ้าชายนักธุกิจที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง เจ้าชายอัล-วาลีด บิด ทาลัล ถูกทรมาน ถูกแบล็คเมลและถูกสั่งให้โอนเงินจากบัญชีเงินฝากในธนาคารสวิสส์ แหล่งข่าวที่ตกเป็นหนึ่งในนักโทษภายในโรงแรม 5 ดาวแห่งนี้ เปิดเผยต่อหนังสือพิมพ์ "the Guardian" ว่า ทุกคนถูกปิดตาและเกือบทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์ที่หน่วยข่าวกรองอิยิปต์เรียกว่า "คืนแห่งการตี" ที่ทั้งเจ้าชายและมหาเศรษฐีนักธุรกิจ ถูกมัดติดกับผนังและถูกตี บางคนถูกขู่ว่าจะถูกเปิดโปงเรื่องนอกใจคู่สมรส หรือการทำธุรกิจต้องสงสัย
แหล่งข่าวบอกว่า คืนแห่งการตีเป็นการทำให้นักโทษก่อนแอลง ก่อนถูกสอบสวน ที่รวมถึงการมัดติดผนังเป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งไม่กี่เดือนต่อมา โรงแรมแห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นสถานที่ต้อนรับการเยือนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สืบสวนบางคนของ MBS บางคน ยังแสดงความไร้เหตุผลตอนที่พูดเรื่องเงินโดยมีข้อเรียกร้องแปลกๆ ไปยังธนาคารสวิสส์ จนก่อให้เกิดข้อสงสัยไปทั่วยุโรป แต่ทางการซาอุดิอาระเบียอ้างว่าสามารถ "กอบกู้" เอาเงินคืนมาได้ 107,000 ล้านดอลลาร์ ในปฏิบัติการชี้คดาวน์ครั้งนี้ แต่แหล่งข่าวหลายคนยืนยันว่า ตัวเลขที่แท้จริงมีเพียงแค่ 28,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนมีความรู้น้อยมาก พูดวกวนและสิ้นหวัง ตอนที่ถามเรื่องทรัพย์สินในต่างประเทศ ก็เพราะพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังค้นหาอะไร มันกลายเป็นการแบล็คเมลในบางเคส เพราะพวกที่ถูกจับบางคนไม่ยอมลงนามใดๆ ทั้งสิ้น ด้านอัยการสูงสุด ได้ประกาศในเวลาต่อมาว่า รัฐบาลยึดทรัพย์สิน หลักทรัพย์ เงินสดและอื่นๆ จากผู้ที่ถูกกล่าวหา ซึ่งบางคนบอกกับคนใกล้ชิดว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกจับในคืนนั้น เพราะระบบอุปถัมภ์และการให้ด้วยความพึงพอใจเป็นสิ่งที่ยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "ระบบซาอุดิ" (Saudi system) มานานแล้ว ขณะที่รัฐบาลระบุว่า MBS ต้องการทำลายระบบนี้ และดึงเงินทั้งหมดกลับคืนท้องพระคลัง
มีรายงานด้วยว่า เจ้าชายอัล-วาลีด ถูกควบคุมตัวนานกว่า 80 วัน ส่วนคนอื่นๆ รวมทั้งเจ้าชายมีเต็บ บิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ก่อนได้รับการปล่อยตัวหลังยอมจ่ายเงิน 1 พันล้านดอลลาร์