อย่าให้จบที่การนองเลือด! "รองแต้ม" วอนเห็นใจตร. ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง พร้อมแจงข้อผิดพลาด ปล่อยม็อบชนม็อบ

การชุมนุมเมื่อวานมองอย่างไร?
"ไม่ว่าจะม็อบใด สีใด เราต้องมองว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การชุมนุมต้องอยู่ในกรอบกฎหมายบ้านเมือง ข้อบังคับอะไรต่างๆ การชุมนุมต้องไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนให้คนอื่น การชุมนุมต้องไม่มีอาวุธ การชุมนุมต้องชุมนุมโดยสงบ ถ้าคุณปราศจากสามข้อนี้ ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ให้ผู้รักษากฎหมายมาดำเนินการกับผู้ชุมนุม แต่เป็นขั้นตอนอย่างไรเดี๋ยวจะพูด เอาเป็นว่าต้องดูแลผู้ชุมนุมทั้งหมด เพราะผู้ชุมนุมคือประชาชน หน้าที่ตร.มีสองอย่าง หนึ่งดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย สองปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บัญชาที่เหนือตนแต่ต้องชอบด้วยกฎหมาย ตร.ก็มีหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน ต้องไปดูแลผู้ชุมนุมด้วย ตร.จะไปปะทะกับผู้ชุมนุมไม่ได้ ต้องรักษากฎหมาย"

เมื่อวานเกิดการฉีดน้ำ ทำเกินเลยกฎหมายไปหรือเปล่า?
"การดูแลฝูงชนจะมีขั้นตอน เช่นเมื่อมีการชุมนุม ตร.จะวางกฎกติกา ว่าคุณชุมนุมได้ตรงไหนอย่างไร เช่น รัฐสภาเขาห้ามเกิน 150 เมตร ตร.อาจต้องมาตั้งแบริเออร์ นี่คือหลักการสากล กั้นไว้ ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็อาจต้องใช้โล่ผลักดัน แต่ก่อนใช้โล่ก็ต้องใช้หลักเจรจาก่อน จากโล่ก็อาจใช้เครื่องฉีดน้ำ ถ้าไม่เชื่อก็แก๊สน้ำตา ถ้ายังไม่เชื่ออีกก็ใช้กระบอง ไม่ใช่ใช้ตี ใช้ดันกระแทกออกไป สุดท้ายถึงใช้กระสุนยาง แต่แต่ละขั้นตอนต้องแจ้งให้เขาทราบว่าจะฉีดน้ำแล้วนะ ถ้าไม่ออก ให้เวลาเท่านี้ๆ คุณต้องออกไป นี่คือขั้นตอนของหลักสากล"
มองว่าม็อบเขาทำรุนแรงจนตร.ต้องใช้มาตรการแต่ละขั้นตอนหรือเปล่า?
"ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ผมมองว่าก่อนการชุมนุม ตร.ต้องเจรจา เมื่อวานมีการบอกกันตั้งนานแล้ว ผู้ชุมนุมคณะราษฎรก็บอกมา เสื้อเหลืองก็บอกมา ฉะนั้นตร.ต้องเจรจาทั้งสองฝ่ายว่าคุณควรอยู่แค่นี้ เอามาใกล้กันไม่ได้ ใกล้กันคือล้มเหลวเลย แล้วมันเปราะบางมาก ถ้าปะทะกันจะเกิดความแตกแยกทางความคิด ต่อไปประเทศชาติจะแตกความสามัคคีกัน ดังนั้นตร.ต้องทำไม่ให้เขาเกิดเหตุ ไม่ถูกต้องที่เอามาใกล้กัน"
หมอวรงค์พูดชัดเจนว่าไปตอนเช้าแล้วจะรีบกลับไปก่อนกลุ่มปลดแอกจะมา แล้วทำไมตอนเย็นถึงมีภาพสองกลุ่มปะทะกันได้?
"กลุ่มหมอวรงค์กลุ่มนั้นผมคิดว่าออกไปแล้ว แต่กลุ่มเหลืองอีกกลุ่มไม่ทราบว่าใครนำมาตรงนั้น มันก็อาจทำให้เสียภาพเสื้อเหลืองไป จริงๆ ไม่ต้องมา คุณอยู่ตรงไหนแสดงสัญลักษณ์หรือบอกกล่าวการต่อต้านไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำได้"ประชาชนกลุ่มนึง มักมองว่าการฉีดน้ำเป็นเรื่องรุนแรง?
"การฉีดน้ำไม่รุนแรง เป็นขั้นตอนสากล เวลาตร.จะฉีดน้ำเขาจะสอน ไม่ได้ฉีดน้ำไปถูกตัวแรง ส่วนมากฉีดน้ำไปเพื่อกันเฉยๆ หลักการตร.จะกันมากกว่า แต่การฉีดน้ำที่คนมองรุนแรงเพราะดันไปพูดว่าการฉีดน้ำมีสาร มีแก๊สน้ำตา ซึ่งมีหรือเปล่าไม่ทราบ ตร.ต้องชี้แจง ฉีดน้ำได้เป็นหลักสากล แต่ถ้าเอาแก๊สน้ำตาเข้าไป บางคนอาจแพ้ได้ เป็นอันตรายได้ อาจตาบอดได้ ตร.ต้องชี้แจง บางทีคนอาจเข้าใจผิดว่ามีแต่ไม่มีก็ได้ ตร.ต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าการใช้อะไรผสมกับน้ำมันถูกต้อง"
มีภาพเด็กสามสี่ขวบ ใส่เสื้อฝนเรียบร้อย หลายคนก็บอกว่าตร.รุนแรง ทำกับเด็กขนาดนี้ มองยังไง?
"อย่าไปมองว่าตร.รุนแรงกับเด็ก ตร.ทำตามหน้าที่ของเขา แต่คุณต้องรู้ว่าเด็กเข้ามาได้ยังไง การชุมนุมแล้วคุณเอาเด็กมาเหมาะมั้ยล่ะ ถ้าเด็กได้รับผลกระทบ คุณจะไปโทษตร.ไม่ได้ เพราะตร.ควบคุมโดยภาพรวม จะจัดการบริหารยังไงก็ภาพรวมทั้งหมด เขาไม่ได้คัดหรอกจะคัดยังไง เขากันโดยภาพรวม คนที่มาชุมนุมต้องมองว่าเอาเด็กมาเหมาะสมหรือไม่ ถ้ามีเรื่องอะไรคุณเอาเด็กมาได้มั้ย ตัวนี้สำคัญ"

มองการที่มีคนเอาเด็กมาเจตจำนงคืออะไร?
"เขาอาจจะชอบประชาธิปไตย ไม่มีใครเลี้ยงลูกเขา เรามองได้สองฝ่าย แต่ถามว่าควรหรือไม่ควรสำคัญกว่า ถ้าเป็นผม เป็นเรื่องไม่ควร ถ้าคุณเอามาแล้วคุณก็ต้องยอมรับผลกระทบตรงนั้นนะ"
ถ้าเด็กได้รับผลกระทบ ต้องเป็นความรับผิดชอบของใคร ระหว่างคนเอามาหรือคนฉีดน้ำ?"ต้องสองฝ่าย คือคนฉีดน้ำอาจต้องรับผิดชอบ แต่เขามีข้อแก้ตัวได้ว่าเขาปฏิบัติหน้าที่ การผิดไม่ผิดต้องดูเจตนาสำคัญ แต่คนที่พาเด็กมามีกฎหมายมั้ยล่ะถ้าพาเด็กมาให้เกิดอันตรายต้องไปดู เขามีกฎหมายคุ้มครองเด็ก ผู้เอาเด็กมาต้องดูแลและรับผิดชอบ"
เมื่อไหร่ใช้กระสุนยางและกระสุนจริง?
"จริงๆ กระสุนยางเป็นขั้นตอนสุดท้าย ตร.ไม่ใช้กระสุนจริง ในการควบคุมฝูงชนยังห้ามตร.พกปืนเลย เพราะกลัวจะถูกแย่งไป กระสุนจริงที่ปรากฎมาไม่ได้เกิดจากตร. แต่กระสุนจะเกิดจากมือที่สาม ก่อให้เกิดปัญหาทางประเด็นขึ้นมา อย่างเมื่อคืนมีการบาดเจ็บ ก็ไปดูสิ กระสุนมาจากกลุ่มไหน พอกลุ่มนี้มีอาวุธตร.ก็จัดการ เพราะถือว่าเกินเลย ถ้าเอากระสุนจริงมายิงอีกฝ่ายก็เกินเลย ตร.ไม่มีแน่นอน กระสุนไม่ใช่จากตร.แน่นอน"
เขามาทางน้ำ ทำได้มั้ย?"กฎหมายบอกอยู่แล้ว คุณมาชุมนุมจะมาทางไหนก็คือการชุมนุม การที่คุณบุกสภา สภาบอกว่าเกิน 150 เมตร คุณมามุมไหนก็ไม่ได้หมดแหละ ถือว่าผิดหมด"
ตอนนี้ตร.น่าสงสาร หลายคนทนภาพตร.ถอยไม่ได้ รองแต้มอธิบายหน่อย ทำไมเขาถึงได้ถอย และทำให้ประชาชนไม่พอใจ?
"ผมกราบเรียนว่าตร.ไม่ใช่เป็นคู่ขัดแย้ง เป็นคนกลาง ตร.อยากไปทำหน้าที่มั้ย ไม่ใช่ แต่ตร.ต้องรักษากฎหมาย ในมุมนึงก็ดูแลความปลอดภัยคุณด้วย และรักษากฎหมายไม่ให้ใครละเมิด คุณจะมาด่าตร.ไม่ได้ แต่การปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานกฎหมายด้วย ตร.ไม่ต้องไปต๊อแต๊"

เต็มฟีด ว่าตร.แพ้ทุกจุด ถอยอยู่ได้?
"ตร.ไม่ได้แพ้ เพราะตร.มีขั้นตอน และคนชุมนุมก็คือพี่น้องประชาชน ตร.ก็อลุ่มอล่วยบ้าง ใช้กฎหมายบ้าง ผมว่าตร.ทำแบบนี้ถูกต้อง เอากฎหมายเอาสากลเข้ามาจับ ประชาชาชนอาจเข้าใจผิด แต่เดี๋ยวก็จะเข้าใจเอง ตร.เขามีหลักเกณฑ์สากล ขณะเราทำอย่างนี้คุณยังด่า ถ้าทำเกินกว่านี้ก็คงไม่ได้"ตอนเช้ากลุ่มไทยภักดีบอกจะอยู่แป๊บเดียวแล้วกลับไป แต่ตอนกลางคืนเห็นภาพเสื้อเหลืองอยู่ที่นั่น และเกิดการปะทะกัน?
"ผมไม่รู้จุดมุ่งหมายของคนที่นำมา ไม่รู้ทำเพื่ออะไร อย่างคุณหมอวรงค์เขามามีเป้าหมายชัดเจน แต่อีกกลุ่มนึงเป็นกลุ่มไหน เอาเสื้อเหลืองมาใส่กันหรือเปล่า หรือทำเพื่ออะไร แล้วทำให้เกิดปัญหา เรารู้อยู่แล้วว่ากลุ่มปลดแอกเป้าหมายเขามายังไง กลุ่มหมอวรงค์เป้าหมายเขาคือยังไง แต่กลุ่มเสื้อเหลืองที่มาทีหลัง และตร.วางระบบไม่ดี ตรงนี้ที่ทำให้คนมองไม่ดี ในความรู้สึกผม เสื้อเหลืองที่มาตอนกลางคืน ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับหมอวรงค์ ฟังการแถลงข่าวของกลุ่มหมอวรงค์กับปลดแอก เขาแถลงข่าวชัดเจน แต่กลุ่มเสื้อเหลืองที่มาทีหลัง ไม่ทราบว่ามาเพื่ออะไรยังไง"
พอมาแล้วก็เกิดวาทกรรมสองมาตรฐานอีก เขาว่าเสื้อเหลืองได้น้ำส้ม เขาได้น้ำผสมแก๊สน้ำตา?
"นี่แหละที่ทำให้เกิดวาทกรรมสองมาตรฐาน คนไทยสงสารคน ยิ่งคุณทำมากขึ้น คนจะยิ่งเทไปหาเขามากขึ้น"

เมื่อวานนี้เพนกวินขึ้นพูดรุนแรงกว่าเดิม?
"ที่ผมดูแลผู้ชุมนุมแต่ละชุมนุม เขามีแกนนำ เวลาไปเจรจาจะเจรจากับแกนนำ ผมไม่เห็นด้วยเลยที่จับแกนนำเขาไป มันเจรจายาก ปล่อยมาเถอะ การดำเนินคดี ดำเนินคดีเมื่อไหร่ก็ได้ เอาเขาออกมาเจรจา อย่างคุณเพนกวิน คนจะไปเจรจาต้องมีศักยภาพ น่าเชื่อถือ ตอนนี้ไม่มีมุมนี้ และไม่มีคนไปอยู่มุมนี้ให้คุยได้"
ที่ผ่านมา ตร.พลาดตรงไหนบ้าง?
"จริงๆ ตร.ทำอยู่ในกรอบอยู่แล้ว ผมดูแล้วหนึ่งขาดประชาสัมพันธ์ไปหน่อย ต้องชี้แจงให้ทันควัน และชี้แจงก่อนที่จะชุมนุมด้วย ชี้แจงข้อกฎหมาย ร้องขอ ขอร้องอะไรต่างๆ ชี้แจงว่าถ้ามาอย่างนี้จะทำอย่างนี้ คุณรู้แล้วนะ ถ้ามาหนึ่งสองสามจะจัด และต้องประชาสัมพันธ์ประชาชนด้วยจะได้ไม่เดือดร้อนกัน สองตร.ต้องใช้หลักเจรจาให้มาก เพราะตร.ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เป็นสะพานระหว่างผู้ชุมนุมและรัฐบาล เป็นผู้รักษากฎหมาย"
ตอนนี้เป็นข้อกล่าวหาเลยว่าตร.ปล่อยให้ม็อบชนม็อบได้ไง ผิดเต็มประตู?
"ผมว่าไม่รอบคอบ คนที่มาเขาก็ดื้อกันทั้่งสองฝ่าย อย่างผู้ชุมนุมปลดแอกต้องการเรียกร้องหนึ่งสองสาม มีการพูดถึงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มเสื้อเหลืองต้องการมาคัดค้านให้บิ๊กตู่อยู่ และไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ คุณรู้เป้าหมายแล้ว ว่าชนกันแน่ ความคิดสองฝ่ายไม่เอากันเลย ดังนั้นคุณเป็นตร.ต้องให้อยู่ห่างกัน"
มีบาดเจ็บกันทั้งสองข้าง ต่างคนต่างทำร้ายกันหรือเปล่า?
"กฎหมายคนละอย่างกัน กฎหมายการชุมนุมกับเรื่อก่อให้เกิดเหตุในการชุมนุมคนละเรื่องกัน อย่างทำร้ายร่างกาย มีต่อสู้กัน ก็ผิดทั้งคู่ แต่การชุมนุมเป็นเรื่องการชุมนุมสาธารณะ และการก่อเหตุในการชุมนุมคนละเป้าหมาย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง"

วันนี้สี่โมงเย็นเขานัดกันไปราชประสงค์ คาดการณ์ยังไง?
"อันดับแรก ตร.ต้องจัดกำลังไปดูแลการชุมนุม ไม่ใช่ไปสลายนะ ไปดูแลการชุมนุม ไม่ให้มือที่สามมาก่อเหตุ เห็นมั้ยเวลามีการชุมนุมตร.ต้องตั้งด่าน เขาไปสกัดตรวจค้นไม่ให้คนอื่นเอาอาวุธเข้ามา ถ้ามีอาวุธเข้ามาจะก่อเหตุและคุมไม่ได้ ทำให้มีปัจจัยอื่นๆ มากยิ่งขึ้น อย่ามองว่าตร.มาเพื่อสกัดกั้น ตร.เขาจะไปดูแลความปลอดภัยให้ท่าน"
ตร.จะทำยังไงไม่ให้อีกกลุ่มมาปะทะปลดแอก?
"ปลดแอกเขามาชุมนุมราชประสงค์ แล้วอีกกลุ่มนึงทำไมต้องมาชุมนุมที่่ราชประสงค์ คุณชุมนุมที่อื่นก็ได้นี่ มันก็ไม่เกิดการปะทะกัน เป็นหน้าที่ตร. อย่าให้เข้าใกล้กันเด็ดขาด คุณต้องไปขอร้องว่าไม่ได้ อย่าคิดว่าไม่มีเหตุ ผมไม่อยากให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียวแล้วจบไม่ได้ แล้วมีปัจจัยอื่นตามมา"