18 พฤศจิกายน 2563 หลังจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ระบุว่า บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้ทำหนังสือทวงถามค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเริ่มทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันเป็นเงินกว่า 8,000 ล้านบาท หากกทม.ไม่จ่าย บริษัท ขู่ว่าอาจจำเป็นต้องหยุดวิ่งให้บริการ นั้น
ล่าสุด นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เผยว่า สำหรับหนี้กว่า 8 พันล้านนั้น เกิดจากการที่ กทม.จ้างบีทีเอสเป็นผู้เดินรถ ซึ่งเป็นภาระหนี้ที่สะสมมานาน และมีการพูดคุยหารือกับทาง กทม.เพื่อหาทางออกของเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นข้อตกลง โดยใช้ ม.44 ตามคำสั่ง คสช. หากมีการต่ออายุสัมปทาน รถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปี หนี้ก้อนหนี้จะหมดไปด้วย เพราะถือว่ารวมกับภาระหนี้รวมดอกเบี้ยกว่า 1.1 แสนล้านที่ กทม.แบกรับอยู่ในขณะนี้ ที่บีทีเอสจะเป็นผู้รับแทน แต่เนื่องจากการต่ออายุสัมปทานมีความล่าช้า ทางบริษัทก็กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่อยากให้หนี้เกิดขึ้นเพิ่มเติม จึงอยากเร่งรัดให้ กทม.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปในเรื่องของสัมปทาน
แต่ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินรถให้บริการประชาชนเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ได้กำชับว่า ให้ดูแลผู้โดยสารอย่างเต็มที่และดีที่สุด