ลุ้น!! รถไฟฟ้า"สายสีเขียว"ส่อชัตดาวน์เดินรถ เหตุไม่จ่ายหนี้

จากกรณีบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอสซี) ผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้ทำหนังสือทวงถามค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าถึงกรุงเทพหานคร(กทม.) หลังจากเป็นหนี้ค้างจ่ายกว่า 8,000 ล้านบาท
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงทพหานคร (กทม.) เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (ส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตเต็มรูปแบบ ว่า ยอมรับขณะนี้ กทม.ไม่มีเงินจ่าย ต้องขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาล เนื่องจาก รัฐบาลมอบให้กทม. รับผิดชอบเดินรถและส่วนที่เปิดให้บริการก็ไม่ได้เก็บค่าโดยสาร

และแม้ว่าการทดสอบการเดินรถไฟฟ้สายสีเขียวส่วนต่อขยาย จากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ไปถึง สถานีคูคตซึ่งเป็นสถานีสุดท้าย กำหนดจะมีพิธีเปิดให้บริการในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 นี้ เบื้องต้น พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจาก บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอสซี) ผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้ทำหนังสือทวงถามค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเริ่มทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันเป็นเงินกว่า 8,000 ล้านบาท หาก กทม.ไม่จ่าย บริษัท ขู่ว่าอาจจำเป็นต้องหยุดวิ่งให้บริการ
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ BTSC ยืนยันว่า "หาก เดินรถโดยไม่ได้รับค่าจ้างก็ไม่ควรรับเดินรถอีกต่อไป"

ที่ผ่านมา บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ BTSC บริษัทลูกของกลุ่มบริษัทบีทีเอส โฮลดิ้ง มีหนังสืทวงถาม บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด บริษัทลูกของ กรุงเทพมหานครถึงค่าจ้างคงค้างกว่า 8,000 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2561 รับจ้างเดินรถสายสีเขียวใต้ กระทั่งเชื่อมโยงยังส่วนต่อขยายเส้นทางอื่นๆ ซึ่งหากกทม.และรัฐบาล ยังหาทางออกไม่ได้ การประกาศหยุดเดินรถทั้ง กทม.และ BTSอาจไม่ใช่เพียงคำขู่อีกต่อไป
ทั้งนี้ BTSC ได้รับสัมปทานรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว บริเวณส่วนกลางซึ่งเป็นเส้นทางหลัก ได้แก่ สายสุขุมวิท ตั้งแต่หมอชิต-อ่อนนุช สายสีลม ตั้งแต่สนามกีฬแห่งชาติ สะพานตากสินระยะเวลา 30ปี ถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2572
ขณะรถไฟฟ้า สายสีเขียว เส้นทางส่วนต่อขยายที่มีปัญหา อาจถึงขั้นหยุดให้บรการเดินรถทั้ง กทม.และ BTSCคือ ส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทปราการ) สายสีเขียวเหนือ(หมอชิต-คูคต) อีกทั้งส่วนต่อขยาย สายสีลม (วงเวียนใหญ่-บางหว้า) และสุขุมวิท (อ่อนนุช-แบริ่ง)

ที่ผ่านมา กทม. ได้อนุมัติสัญญาสัมปทานกับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ในฐานะบริษัทลูก รูปแบบ PPP-Netcost เป็นระยะเวลา 30 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 เพื่อให้ดำเนินงานในส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทระยะที่ 1 ช่วงอ่อนนุช - แบริ่ง ตลอดจนส่วนต่อขยายในอนาคตที่ กทม.เป็นผู้ก่อสร้าง ส่วนต่อขยายสายสีสม
ระยะที่ 2 ช่วงวงเวียนใหญ่ - บางหว้า และ ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทระยะ 2 ช่วงแบริ่ง - เคหะสมุทรปราการและส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทระยะที่ 3 ช่วงหมอชิตสะพานใหม่ - คูคต ที่การรถไฟฟ้าขนสมวลชนแห่ประเทศไทย(รฟม) เป็นผู้ก่อสร้าง รวมถึงส่วนสัมปทานเดิมของ BTSC ที่จะหมดสัญญาลงใน ปี 2572 รวมระยะทางทั้งสิ้น 89 กิโลเมตร

แต่เพื่อลดความจำเป็นในการจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุง และการจัดหาขบวนถไฟฟ กรุงเทพธนาคมจึงลงสัญญาวจ้างให้ BTSC เป็นผู้บริหารและดูแลซ่อมแชมโครงการ (Operation &Maintenance) เพื่อให้ BTSC นำขบวนรถชุดเดิมที่มีอยู่เข้ามาให้บริการในส่วนต่อขยายทั้งหมดโดยผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนขบวนรถ
นอกจากนี้ กทม.ยังว่าจ้าง BTSC เดินรถไฟฟ้สายสีทอง ช่วงสะพานกรุงธนบุรี สำนักงานเขตคลองสานระยะทาง1.8 กิโลเตร ที่จะเปิดให้บริการ วันที่ 16 ธันวาคมนี้ ดังนั้นจึงต้องรอดูว่า หาก กทม.และรัฐบาล ไม่มีเงินค่าจ้างไม่ต่ออายุส้มปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งระบบ เพื่อแลกกับภาระหนี้แล้วผลสรุปจะอย่างไร