"พ่อฟ้า - ช่อ" ช่วยหมอชัช ชิงนายกฯอบจ.นครปฐม

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า พร้อมนายชัชวาล นันทะสาร (หมอชัช) ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครปฐม เบอร์1 ในนามคณะก้าวหน้า และทีมผู้สมัครสมาชิกสภาจังหวัด (ส.อบจ.) เดินทางพบปะประชาชนที่จังหวัดนครปฐม เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม ที่จะถึงนี้
โดย ธนาธร พรรณิการ์ และชัชวาล ได้เข้าพื้นที่หาเสียงในจุดแรกที่บริเวณชุมชนหน้าวัดเทียนดัด เดินไปจนถึงหมู่บ้านเทียนดัด ก่อนเดินทางไปยังชุมชนหน้าวัดสาลวัน จากนั้นไปต่อที่ตลาดน้ำลำพญา ก่อนจะลงพื้นที่ในจุดสุดท้ายที่ตลาดสดดอนตูม โดยในระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น ธนาธรและพรรณิการ์ ได้เน้นย้ำถึงสิทธิของประชาชนในการออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ ประชาชนจะได้สิทธิ์ในการกาบัตรเลือกตั้งทั้งหมด 2 ใบ โดยใบแรกเป็นการเลือกนายก อบจ. ส่วนใบที่สอง เป็นการเลือก ส.อบจ. หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า สจ. และยังอธิบายต่ออีกว่า การเลือก ส.อบจ. นั้น จะเป็นการเลือกตามเขตนั้นๆ 

 ธนาธร กล่าวเน้นย้ำกับประชาชนในพื้นที่ว่า จังหวัดนครปฐม มีการผูกขาดธุรกิจการเมือง โดยบ้านใหญ่ที่อยู่ในอำนาจมาอย่างยาวนาน จังหวัดนครปฐมมีงบประมาณปีละกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งตนเชื่อว่าหากนำงบประมาณไปใช้เพื่อให้ประชาชนชาวนครปฐมได้เกิดประโยชน์สูงสุด คุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจ รวมไปถึงการท่องเที่ยวจะดีขึ้นอย่างแน่นอน และจะทำให้เม็ดเงินเข้าถึงพ่อค้าแม่ขายอย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ช่วยนายชัชวาล รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นของธนาธรและพรรณิการ์พบว่า ประชาชนในแต่ละพื้นที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ต่างพากันเดินมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก โดยสังเกตได้จากรอยยิ้มของพ่อค้าแม่ขายและประชาชนทั่วไปที่ออกมาจับจ่ายใช้สอยภายในตลาด

พรรณิการ์ กล่าวว่า จังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดบ้านใหญ่หรือเขตอิทธิพล หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่เราเสียเปรียบและกดดันหรือไม่ แต่ตรงกันข้าม ตนคิดว่าจังหวัดที่เป็นบ้านใหญ่อย่างนครปฐม ที่ผูกขาดอำนาจการเมืองท้องถิ่นมายาวนานกว่าสิบปี เป็นพื้นที่ที่เราได้เปรียบ เพราะประชาชนเห็นแล้วว่า หลายสิบปีที่ผ่านมาที่ชาวนครปฐมอยู่ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มผู้มีอำนาจชุดเดิมนั้นไม่ได้เกิดการพัฒนา งบประมาณจำนวนมหาศาลประโยชน์ไม่ได้เกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งเหมือนกับพรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนเป็นจำนวนมาก จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะประชาชนเห็นว่ารัฐบาลภายใต้การบริหารของ คสช. นั้นเป็นอย่างไร
"ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน คนที่เขาเบื่อกับอำนาจที่ผูกขาดแบบเดิมๆ เขาเห็นแล้วว่าผลงานที่ผ่านมา ผลประโยชน์ไม่ตกถึงมือประชาชน ประชาชนจะกล้าตัดสินใจให้โอกาสคนใหม่ๆเข้ามาบริหารเปลี่ยนแปลงจังหวัดของเขา และนี่คือเหตุผลที่เวลาเราหาเสียงทั้งที่เป็นเขตบ้านใหญ่ เราเชื่อมั่นในตัวประชาชนของจังหวัดนครปฐม เพราะพวกเขารู้แล้วว่า การอยู่ภายใต้นักการเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชนเป็นอย่างไร และเมื่อพวกเราอาสาเป็นผู้ที่รับใช้ประชาชน เราคิดอยู่เสมอว่า นายใหญ่ของเราคือประชาชน"

ด้าน นายชัชวาล ผู้สมัครนายก อบจ.นครปฐม ระบุถึงการที่ต้องชนศึกเลือกตั้งท้องถิ่นกับบ้านใหญ่ว่า ตนมั้นใจในทีมงานและนโยบายของคณะก้าวหน้าที่สามารถจะพัฒนาจังหวัดนครปฐมได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ตนยังมั่นใจในประชาชนชาวนครปฐมอีกด้วย เพราะเชื่อว่าชาวนครปฐมต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงจังหวัดให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ส่วนสำหรับการที่จะต้องลงแข่งขันกันบ้านใหญ่นั้น ตนไม่มีความกังวลใดๆทั้งสิ้น เพราะมั่นใจว่า การเมืองที่ใสสะอาดนั้นสามารถชนะกันที่นโยบาย และมั่นใจว่านโยบายของเราสามารถเอาชนะใจคนนครปฐมได้ โดยพื้นฐานความคิดหลักของเราคือ นายใหญ่ของเราคือประชาชน