svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ภัยหนาว 3 เดือน" มท.1 สั่ง 52 จังหวัดเตรียมรับมือ

11 พฤศจิกายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มท.1 สั่งการปภ. 52 จังหวัด ภาคเหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก เตรียมพร้อมรับมือภัยหนาว คาดหนาวเย็น ช่วงกลาง ธ.ค.63 ถึงปลาย ก.พ. 64 ตั้งแต่ ย้ำดูแลประชาชน และนักท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย(รมว.มหาดไทย) ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(ผบ.ปภ.ช.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2563 และจากการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยพบว่า ช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดจะเริ่มตั้งแต่ประมาณกลางเดือนธันวาคม 2563 ถึงปลายเดือนมกราคม 2564 และสิ้นสุดประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564โดยคาดการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวม 52 จังหวัดจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณยอดดอย ยอดภู และเทือกเขาจะมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
ตนได้สั่งการไปยัง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (กอปภ.ก.)ในแต่ละจังหวัดให้เตรียมความพร้อมรับมือภัยหนาว ดังนี้
1) ดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์ภายใต้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ทำหน้าที่ติดตามสภาวะอากาศ คาดหมายพื้นที่เสี่ยงที่มีโอกาสเกิดอาการหนาวหรือหนาวจัด การแจ้งเตือนและเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอากาศหนาวในพื้นที่
2) ประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อซักซ้อมแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย การกำหนดแนวทาง การจัดเตรียมเครื่องกันหนาว ตลอดจนชี้แจงระเบียบหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ

"ภัยหนาว 3 เดือน" มท.1 สั่ง 52 จังหวัดเตรียมรับมือ


3) ให้ทบทวน ปรับปรุงแผนเผชิญเหตุของจังหวัด โดยเฉพาะการสำรวจปรับปรุงข้อมูลบัญชีผู้ประสบภัยหนาวกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กไร้ผู้อุปการะ คนพิการ ทุพพลภาพ สตรีมีครรภ์ และผู้มีรายได้น้อยให้เป็นปัจจุบัน และปรับปรุงข้อมูลวัสดุอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
4) สร้างการรับรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพช่วงฤดูหนาวพร้อมประสานหน่วยงานด้านสาธารณสุขเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมป้องกันโรคติดต่อในช่วงฤดูหนาว และรณรงค์ขอความร่วมมือเกษตรกรใช้วิธีการไถกลบแทนการเผาตอซังและวัสดุทางการเกษตรเพื่อลดมลพิษในอากาศและปัญหาหมอกควัน
5) กำหนดมาตรการในการป้องกันการเกิดอัคคีภัยและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น ทัศนวิสัยจากหมอกหนา เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการจราจร และอัคคีภัยในเต็นท์ที่พักของนักท่องเที่ยว เป็นต้น โดยจัดเจ้าหน้าที่ รถยนต์ดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ และอุปกรณ์ดับเพลิงให้มีความพร้อมปฏิบัติงานได้ทันที


พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวเน้นย้ำว่า ขอให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุฯ ทันทีเมื่อเกิดภัย พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งหน่วยทหาร ภาคราชการ ภาคเอกชน องค์กรการกุศล มูลนิธิ และประชาชนจิตอาสา แบ่งพื้นที่รับผิดชอบเพื่อบูรณาการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวไม่ซ้ำซ้อนกันและเป็นไปอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ ขอให้จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปฏิบัติตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ขาดแคลนเครื่องกันหนาวเป็นสำคัญ

logoline