( แฟ้มภาพ )
10 พฤศจิกายน 2563 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อแจ้งความให้ปิดเฟซบุ๊ก นายสุนัย จุลพงศธร ฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และ หมิ่นสถาบัน
นายสนธิญา กล่าวว่า ในการแจ้งความกับปอท. มี 3 ประเด็น คือ 1.ให้ปิดกั้นระงับยุติการเผยแพร่สื่อออนไลน์ทั้งหมด อาทิ เพจเฟซบุ๊ก อินสตราแกม ยูทูป เป็นต้น ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสถาบัน 2.เอาผิดเพจเฟซบุ๊ก "สุนัย จุลพงศธร" นักโทษหนีคดี ตาม ม.112 หลังมีการไลฟ์สดจากต่างประเทศ ช่วงประมาณ 19.00 น. ทุกวัน ซึ่งจาบจ้วงสถาบันมาโดยตลอด และ 3. ตรวจสอบบุคคลโพสต์แสดงความคิดเห็นที่จาบจ้วงสถาบันในเพจเฟซบุ๊กของนายสุนัย ประมาณ 1,500- 2,000 ราย เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบันมาตลอด จึงอยากให้ ปอท. ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดให้ถึงที่สุด
ขณะเดียวกัน อีก 2 สัปดาห์ จะไปทวงถามความคืบหน้าที่ สน.ชนะสงคราม กรณีแจ้งความเอาผิด น.ส.อินทิรา หรือ ทราย เจริญปุระ ฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้ชุมนุมกระทำความผิดตามกฎหมายและจาบจ้วงสถาบัน เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้างนายสนธิญา กล่าวว่า การดำเนินการของตน เป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ม.50 (1) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ ม.5 รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทําใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทํานั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้ เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้กระทําการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้น ไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข