svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ

09 พฤศจิกายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เป็นชื่อที่ตอนนี้เชื่อว่าคนทั้งโลกอยากค้นหามากที่สุด "กมลา แฮร์ริส" ผู้หญิงเก่งมากความสามารถ ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ก้าวขึ้นเป็นรองประธานาธิบดีหญิงผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ และมีเรื่องที่ไม่ธรรมดาที่ว่ากันว่า ทั้งคู่สานสัมพันธ์การทำงานมาจาก "อดีตคู่แข่งจนกลายมาเป็นคู่หู" และวันนี้คนหนึ่งกลายเป็น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และอีกคนก้าวขึ้นตำแหน่งรองประธานาธิบดี สหรัฐฯ .

เรียกได้ว่า กระแสข่าวการเลือกตั้ง ของสหรัฐฯ ยังคงต้องติดตามกันต่อเนื่องในแบบวันต่อวัน สำหรับข่าวการเลือกตั้งสหรัฐ ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศรายงาน โจ ไบเดน เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งสหรัฐ 2020 กลายเป็น ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของประเทศ และยังเป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการมาพร้อมวัย 78 ปี


นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์เกิดขึ้นพร้อมๆกัน กับว่าที่รองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐ นั้นก็คือ กมลา แฮร์ริส ซึ่งวันนี้ ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ จะมาทำความรู้จัก กมลา แฮร์ริส และประมวลเรื่องราวของเธอให้เจาะลึกลงไปอีกหน่อย

ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ


ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ




ประวัติชีวิตส่วนตัวของกมลา แฮร์ริส

กมาลา แฮร์ริส เกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2507


ปัจจุบันอายุ 56 ปี


เกิดที่ เมืองโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอเนียร์


สถานะ แต่งงาน (กับ ดักลาส เอ็มฮัฟฟ์)


บิดาชื่อ โดนัล เจ แฮร์ริส นักเศรษฐศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ชาวจาเมกา-อเมริกัน กับ มารดา ชยมาลา โฆปาลัญ นักชีวการแพทย์ ชาวอินเดีย-อเมริกัน


ประวัติการรศึกษากมลา แฮร์ริส


จบการศึกษาจาก Howard University


ศึกษาต่อด้านกฎหมายที่ University of California Hasting College of the law


ประวัติเส้นทางการทำงาน


เคยดำรงตำแหน่งอัยการเมืองซานฟรานซิสโก คนที่ 27 วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2547 3 มกราคม พ.ศ. 2554


เคยดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนีย คนที่ 3 วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554 3 มกราคม พ.ศ. 2560

     

 

     

          

ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ


สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐจากรัฐแคลิฟอร์เนียอยู่ในวาระเริ่มดำรงตำแหน่ง 3 มกราคม พ.ศ. 2560 ดำรงตำแหน่งร่วมกับไดแอนน์ ไฟน์สไตน์


ปี 2562 เธอได้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ได้ถอนตัวในเวลาตัวมา ก่อนที่ โจ ไบเดน จะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรค ให้เป็นตัวแทนเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี


และเธอเป็นหนึ่งในกรรมาธิการศึกษาเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ หลังเกิดกรณีจอร์จ ฟลอยด์ ถูกตำรวจใช้เข่ากดที่คอจนเสียชีวิต ระหว่างจับกุม จนกลายเป็นชนวนให้เกิดการประท้วงในสหรัฐฯ


ระหว่างการหาเสียงเพื่อชิงการเป็นตัวแทนพรรค แม้เธอจะโจมตี โจ ไบเดน แต่ โจ ไบเดน ก็เห็นความโดดเด่นในหลายๆ ด้านของเธอ จึงเลือก กมลา แฮร์ริส เป็นคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี


กมลา แฮร์ริส จากอดีตคู่แข่ง โจ ไบเดน กลายเป็นคู่หู ประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี สหรัฐฯ

ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ


จากรายงานข่าวล่าสุด ในคลิปที่โพสต์ในทวิตเตอร์ส่วนตัวของ กมลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีหญิงผิวสีเชื้อสายเอเชียคนแรกของสหรัฐฯ เมื่อช่วงเที่ยงกว่าๆ ของวันที่ 8 พ.ย. 2563 เจ้าตัวแจ้งข่าวดีกับ โจ ไบเดน ว่า "เราทำได้แล้ว เราทำได้แล้วโจ คุณกำลังจะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ" ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

แม้ว่าทุกคำพูดของเธอจะเอ่ยถึงโจ ไบเดน แต่วินาทีประวัติศาสตร์นั้นเป็นของเธอ...ด้วยอีกคน และถือว่า เธอจะเป็นอีกคนที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่ากันว่า ชัยชนะของพรรคเดโมแครต ทำให้ แฮร์ริส สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับการเมืองสหรัฐ ด้วยการ เป็นผู้หญิงคนแรกและคนผิวสีชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรก ที่ได้รับเลือกให้เป็นรองประธานาธิบดีของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ

ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ


ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ

ในช่วงหาเสียง แฮร์ริส มักจะบอกเล่าถึงความสนิทสนมระหว่างเธอกับแม่ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อปี 2009 โดยครั้งหนึ่งเธอเคยกล่าวว่า


"แม่ของฉัน เธอเลี้ยงฉันกับน้องสาว และเธอแข็งแกร่งมาก แม่ของพวกเราสูงแค่ 5 ฟุต (ราว 152 ซม.) แต่ถ้าคุณเคยเห็นเธอ คุณต้องคิดว่าเธอสูง 10 ฟุตแน่"

.

หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลับฮาวเวิร์ด ในกรุงวอชิงตันดีซี ในปี 1986 และโรงเรียนกฎหมายแฮสติงส์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในปี 1989 แฮร์ริสก็สอบผ่านเนติบัณฑิตในปีต่อมาและเข้าทำงานเป็นอัยการผู้ช่วยในเขตแอละมีดาในรัฐแคลิฟอร์เนียบ้านเกิด


เส้นทางสู่สายการเมืองของแฮร์ริสได้เริ่มขึ้น ณ ที่แห่งนี้

ปี 2003 แฮร์ริสได้รับเลือกให้เป็นอัยการเขตของซานฟรานซิสโก กลายเป็นผู้หญิงผิวดำคนแรกในแคลิฟอร์เนียที่ได้รับตำแหน่งนี้


ปี 2010 เธอเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย


ปี 2016 เธอเป็นผู้หญิงผิวสีคนที่สอง และเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียใต้คนแรก ที่ได้รับเลือกให้เป็นวุฒิสมาชิกของสหรัฐ


ในฐานะสมาชิกวุฒิสมาชิกเธอได้สนับสนุนการปฏิรูปด้านการดูแลสุขภาพ การนำกัญชาออกจากสารบบรายชื่อสารควบคุมอย่างเข้มงวดภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลาง


รวมทั้งการให้หนทางสู่การเป็นพลเมืองแก่คนต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร ผลักดันพระราชบัญญัติ DREAM (Dream Act) การห้ามการผลิต จำหน่าย ครอบครองอาวุธอย่างผิดกฎหมาย และการปฏิรูปภาษีแบบก้าวหน้า


และยังได้รับความสนใจจนเป็นที่รู้จักในระดับประเทศหลังจากที่เธอตั้งคำถามถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ในการพิจารณาไต่สวนการทำงานของสมาชิกวุฒิสภารวมถึงอัยการสูงสุด เจฟฟ์

เซสชันส์ และอัยการ วิลเลียม บาร์ และผู้เข้าชิงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุด นายเบรต คาวานอร์

ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ


ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ



ระหว่างการแถลงครั้งแรกหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ 7 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นหรือตรงกับช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ย. 2563 ของไทยช่วงหนึ่ง แฮร์ริส เผยถึงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเธอว่า "ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงคนแรกในตำแหน่งนี้ แต่ไม่ใช่คนสุดท้ายแน่นอน"

ได้เวลาทำความรู้จัก "กมลา แฮร์ริส" กับบทบาทรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ



ในช่วงเวลาที่น่าจดจำเช่นนี้ พวกเขาทั้งสองคน ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ร่วมกัน ในการคว้าชัยชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ บันทึกบทนี้บันทึกไว้ว่าโจ ไบเดน ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 และโลกจะบันทึกชื่อของ "กมลา แฮร์ริส" เป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรก( คนที่ 49) ของสหรัฐฯทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ ขอแสดงความยินดีกับบทบันทึกหน้าใหม่ในครั้งนี้ มา ณ โอกาสนี้ด้วย

logoline