"จะเห็นได้ว่าการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจหรือการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช้แต่เฉพาะกลุ่มเที่ยงคือในกลุ่มอายุแรกเกิดจนถึง3ปีเท่านั้นแต่ยังคงครอบคลุมไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่65ปีขึ้นไปดังนั้นทุกกลุ่มจึงต้องมีการเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดซึ่งหากพบมีสิ่งผิดปกติโดยเฉพาะกับการมีไข้สูงไอบ่อยๆตัวลายซีดเหลืองควรที่จะมาพบแพทย์ทันทีก่อนที่เชื้อจะลามสู่ปอดซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายถึงชีวิตได้"
ผู้ว่าราชการยังกล่าวอีกว่าการรักษานั้นแม้ทางการแพทย์จะทำการรักษาตามอาการโดยที่ยังคงไม่มียาที่จะรักษาให้หายขาดแต่การป้องกันและเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากซึ่งมาตรการการป้องกันโควิด-19ที่จังหวัดได้เน้นย้ำและย้ำเตือนให้กับประชาชนได้ทำจนเกิดการคุ้นชินและการ์ดไม่ตกทั้งการล้างมือบ่อยๆการเว้นระยะห่างการใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือรวมไปถึงการกินร้อนช้อนส่วนตัวจึงต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดเนื่องจากโรคไวรัสอาร์เอสวีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นโรคที่เกิดขึ้นในช่วงปลายฝนต้นหนาวซึ่งขอนแก่นนั้นมีสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวอย่างเป็นทางการจึงจำเป็นจะต้องควบคุมและป้องกันตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดเนื่องจากยังคงมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาและพบแพทย์ในโรคระบบทางเดินหายใจในระยะนี้อย่างต่อเนื่อง