6 มิย.62 : ผู้เข้าประกวดทุกคนเข้าทำข้อตกลงในการเข้าประกวด MUT 2019 โดยทุกคนที่ผ่านเข้ารอบ 60 คนจะต้องเซ็นข้อตกลงนี้ (ข้อตกลงดังกล่าวมิใช่สัญญา เป็นเพียงเงื่อนไขข้อบังคับที่จะต้องปฏิบัติในการเข้าประกวด และเมื่อประกวดได้ผู้ชนะ 5คนแล้วจึงจะมีการเซ็นสัญญาอีกครั้งหนึ่ง)
17 กค.62 : รองหนึ่งถึงรองสี่ เข้าเซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อยยกเว้นฟ้าใส เนื่องจากเวลาดังกล่าวฟ้าใสยุ่งตลอดเพราะเป็นช่วงที่เพิ่งได้รับตำแหน่ง และที่ผ่านมา(จำวันที่ไม่ได้) ได้เคยแจ้งน้องให้เข้ามาดูเรื่องสัญญาหลายครั้ง เช่นครั้งหนึ่งที่น้องไปเรียนเรื่องการพูดที่จุฬา พี่บี (ผู้จัดการน้องในขณะนั้น) ได้ทำการนัดหมายให้มาดูเรื่องสัญญาที่บริษัท เพราะอยู่ติดกับจุฬาอยู่แล้ว พวกเรานั่งรอน้องจนเย็นมาก ในที่สุดก็ไม่ได้เข้ามา เพราะน้องบอกว่าเหนื่อยขอกลับบ้านไปเลย
และอีกครั้งก่อนไปแอตแลนต้าพี่บีก็ได้นำเอกสารไปให้น้องอ่านอีกครั้ง น้องก็บอกว่าเดี๋ยวจะอ่าน เพราะสัญญาจริงๆแล้วมีไม่กี่แผ่น และไม่ได้มีความซับซ้อน จนถึงวันจะเดินทางฟ้าใสก็ยังไม่ได้เซ็น เพราะอ้างว่าต้องการโฟกัสกับเรื่องการเตรียมตัวนี้ และเดี๋ยวเดินทางไปแอตแลนต้า น้องบอกเองว่าเรามีเวลาหลายวันค่อยอ่านทบทวน อีกทั้งเราเดินทางไปแอตแลนต้าก่อนล่วงหน้าประมาณเกือบสองอาทิตย์ จะใช้เวลาช่วงนี้อ่านและเซ็นสัญญา
8-15 พย.62 : ช่วงถ่าย protait และท ำLookbook ทางทีมงานคือ Director ของกองบอกว่า พี่บียังคอยตามฟ้าใสเรื่องสัญญาตลอด ได้คุยอัพเดทกับไดเรคเตอร์ว่าน้องยังไม่ยอมเซ็นเลยเพราะน้องบอกว่าไม่ว่างอ่าน ถามทีไรน้องก็บอกน้องอยากจะโฟกัสในการเตรียมตัวไม่ว่างดูสัญญา
28พย.62 :คุณแม่ฟ้าใสเดินทางมาถึงแอตแลนต้าขอนอนกับฟ้าใส
ในช่วงระยะเวลาระหว่างนั้นเราก็ได้คุยกับแม่ของน้องเรื่องสัญญาที่ยังไม่ได้เซ็นเลยทั้งที่ใกล้กันประกวดMUมาแล้วแม่บอกว่าเรื่องของสัญญาเดี๋ยวดูให้น้องเองเพราะน้องอาจจะไม่เข้าใจภาษาไทยที่เป็นภาษากฎหมายดีนักเพราะเติบโตที่ต่างประเทศเราก็เข้าใจในเหตุผลนี้คุณแม่ยังบอกกับเราว่าไม่ต้องห่วงน้องเซ็นแน่นอนไม่บิดพลิ้วเพราะที่บ้านยึดถือเรื่องคุณธรรมเป็นหลัก
หลังจากนั้นจำวันที่ไม่ได้เราก็ได้ปริ้นเอกสารสัญญามาให้คุณแม่หนึ่งชุดและคุณแม่ทำการเขียนขอแก้สัญญาที่เป็นลายมือของคุณแม่เองซึ่งทางกองก็ยินยอมเปลี่ยนให้หมดตามที่คุณแม่ขอแก้ไข
และเราก็ทำการปริ้นสัญญาที่แก้ไขตามที่คุณแม่ต้องการทุกประการนำใส่ซองแล้วมามอบให้คุณแม่ซึ่งคุณแม่บอกว่าจะนำไปให้น้องเซ็นเอง
5-6ธ.ค.62 :จนอีกสองวันจะถึงวันพรีลิมแล้วน้องก็ยังไม่ยอมเซ็นสัญญาพอทวงถามไปที่คุณแม่คุณแม่บอกว่าน้องอายุ26แล้วแม่ไม่สามารถบังคับน้องได้แต่เรื่องนี้ไม่เป็นไรเรากลับไปเซ็นกันที่กรุงเทพก็ได้ตอนนี้ขอให้น้องมุ่งมั่นเรื่องนี้ก่อนดีกว่าเราก็ไม่ว่ากันเพราะโดยส่วนตัวคิดว่าสัญญามันไม่ใช่สิ่งสำคัญไปกว่าความจริงใจที่มีให้กัน
จนเมื่อกลับถึงกรุงเทพแล้วน้องก็ดังมากแล้วและไม่ได้มีการมาเซ็นสัญญากันแต่อย่างใด
27มค.63 :กองประกวดได้ส่งหนังสือทวงถามให้ฟ้าใสเข้ามาเซ็นสัญญาอีกครั้งที่สำนักงานของบริษัท(มีเอกสาร)
21กพ.63 :ฟ้าใสได้เดินทางมาพร้อมญาติผู้ใหญ่2ท่านและทนายความเพื่อมาขอเจรจาโดยในวันดังกล่าวฟ้าใสได้ทำสัญญาขึ้นมาเองหนึ่งฉบับเพื่อยื่นข้อเสนอและข้อเรียกร้องให้บริษัททำสัญญาฉบับดังกล่าวกับฟ้าใส
-ซึ่งทางบริษัทได้ตรวจสอบสัญญาฉบับดังกล่าวแล้วเห็นว่าคงไม่เหมาะและดูไม่เป็นธรรมกับทางบริษัทบริษัทจึงไม่รับข้อเสนอของฟ้าใส
-ฟ้าใสจึงยื่นข้อเสนอไม่ขอเข้าทำสัญญากับทางบริษัททางบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าเมื่อฟ้าใสไม่มีเจตนาที่จะทำงานร่วมกันแล้วก็ไม่อยากจะบังคับจิตใจหรือดำเนินการตามกฏหมายใดๆทั้งสิ้นทั้งที่บริษัทมีสิทธิ์ที่จะพึงกระทำได้
-บริษัทจึงยินยอมให้ฟ้าใสไม่เข้าทำสัญญาตามที่เธอต้องการและในวันดังกล่าวทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาตกลงเรื่องของการขอเงินบางส่วนและรางวัลที่จะได้รับจนเป็นที่พึงพอใจของทั้งสองฝ่ายแล้วและได้กำหนดนัดลงชื่อในบันทึกข้อตกลงในวันที่28กุมภาพันธ์2563ต่อไป
27กพ.63 :ทนายของบริษัทได้ส่งอีเมลบันทึกข้อตกลงให้กับทางทนายความของฟ้าใสได้ตรวจสอบทางทนายของฟ้าใสได้ตอบกลับมาว่าขอแก้ไขก่อนและได้มีการติดต่อเข้ามาว่าฟ้าใสไม่สามารถเข้ามาลงชื่อบันทึกข้อตกลงตามที่นัดกันไว้ในวันที่28กพ.63ได้จึงขอเลื่อนเป็นวันที่4มีค.63แทน
4มีค.63 :
-ฟ้าใสเดินทางมาที่บริษัทพร้อมญาติผู้ใหญ่หนึ่งท่านและทนายความเข้ามาพบกันที่บริษัทและฟ้าใสได้ลงชื่อในบันทึกข้อตกลงทั้งสองฝ่าย
-ฟ้าใสได้รับเงินและสายสะพายไปครบถ้วนแล้วตามที่ตกลงกันไว้
-ในบันทึกดังกล่าวก็มีการตกลงกันไว้ว่าจะไม่ให้ข่าวเสียหายใดๆต่อกันและไม่เปิดเผยข้อตกลงใดๆในบันทึกให้แก่บุคคลภายนอกทราบทั้งสิ้นซึ่งข้อตกลงข้อนี้ฟ้าใสคงทราบดีอยู่แล้วทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาทางบริษัทจึงไม่เคยชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของฟ้าใสไว้ตลอดมา
เมื่อเกิดความเข้าใจผิดในวงกว้างทางกองประกวดอยากเรียนให้ทราบว่าเรายินดีและอนุญาตให้ฟ้าใสนำสัญญาทั้งหมดเปิดเผยต่อสาธารณะได้โดยรับรองว่าจะไม่เอาผิดแต่อย่างใด
ขอบคุณภาพ : @paweensuda