ศึกชิงนายก อบจ.ที่เพื่อไทยห้ามแพ้!

เพราะงานนี้พรรคเพื่อไทยจัด "ทัพหลวง" ลงสู้ศึก โดยส่ง นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ชิงเก้าอี้นายก อบจ. พร้อมทีมผู้สมัคร ส.อบจ.อีก 42 คน 42 เขต


นายพิชัย คือคนเดียวกับ นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ "ส.ว.ก๊อง" อดีต ส.ว.เชียงใหม่ คนสนิทของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ "เจ๊แดง" น้องสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โดย ส.ว.ก๊อง ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย จึงเรียกว่าเป็นผู้สมัคร official มีพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มากที่สุดในสภาเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ


ส.ว.ก๊อง เคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาจากการเลือกตั้ง ได้คะแนนกว่า 170,000 คะแนน ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2551-2557 พื้นเพเดิมประกอบอาชีพทนายความ และทำธุรกิจ และยังเป็นอดีตประธานสโมสรฟุตบอล เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสายชินวัตร ปัจจุบันเป็นประธานสโมสรเชียงใหม่ เอฟซึ


ส.ว.ก๊อง ตกเป็นข่าวอื้อฉาว เมื่อเข้าไปพัวพันกับ นายจารุชาติ มาดทอง พยานปากเอกในคดีขับรถชนตำรวจตายของ นายวรยุทธ หรือ "บอส" อยู่วิทยา จนทำให้ "บอสรอดทุกข้อหา" โดย ส.ว.ก๊อง รู้จักกับนายจารุชาติ ทั้งเคยใช้งานและมีภาพนายจารุชาติไปร่วมงานอุปสมบทของ ส.ว.ก๊อง ด้วย ก่อนที่นายจารุชาติจะจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุที่หลายคนยังคาใจ

หลังจับสลากได้หมายเลข 1 "ส.ว.ก๊อง" ก็นำทีมออกหาเสียงทันที โดยจัดงานเปิดตัวผู้สมัครอย่างเอิกเกริก มีแกนนำและอดีตพรรคเพื่อไทยไปร่วมงานคับคั่ง ทั้ง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย, นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย, นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ , นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ , นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายอดิศร เพียงเกษ อดีตส.ส.เพื่อไทย เป็นต้น มีการขึ้นเวทีสับเปลี่ยนกันปราศรัยด้วย


ฟังการปราศรัยของ นายวรชัย เหมะ ก็คงพอได้เห็นเค้าลางของความดุเดือด โดยเจ้าตัวบอกว่า จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย มีนายกรัฐมนตรีถึง 2 คน สิ่งที่เผด็จการรัฐประหารทำกับอดีตนายกฯทั้ง 2 คน ถือว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ถ้าหากว่าเราแพ้การเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ เท่ากับยอมจำนนต่อเผด็จการ เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ "พรรคเพื่อไทยและชาวเชียงใหม่แพ้ไม่ได้"


นี่คือเดิมพันสูงสุดของพรรคเพื่อไทยเลยทีเดียว!

สำหรับคู่ต่อสู้ของ "ส.ว.ก๊อง" และพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ "คนกันเอง" อย่าง นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ ซึ่งเคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาเนิ่นนาน

นายบุญเลิศ เป็นอดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ 2 สมัย ลงสมัครในนาม "กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม" เป็นศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัย รุ่น 15 ทั้งยังจบปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงถือว่าเป็น "ลูกหม้อเชียงใหม่" แท้ๆ ตระกูลบูรณุปกรณ์เองก็เป็นตระกูลเก่าแก่


ความสัมพันธ์ระหว่างนายบุญเลิศ ซึ่งถือเป็น "พี่ใหญ่บูรณุปกรณ์" กับแกนนำพรรคเพื่อไทยสาย "เจ๊แดง" ขาดสะบั้นลงจากกรณีที่ นายบุญเลิศ ถูก คสช.กล่าวหาว่ามีส่วนในการรณรงค์คว่าร่างรัฐธรรมนูญ ในช่วงก่อนทำประชามติเมื่อปี 59 ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ช่วงนั้น คสช.จัดหนักถึงขั้นส่งเจ้าหน้าที่เข้าค้นบ้าน และเชิญตัวไปซักถามที่มณฑลทหารบกที่ 11 แม้จะได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา แต่ก็ถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายก อบจ.


ทว่าภายหลังเหมือนมี "ดีลลับ" เปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างนายบุญเลิศ กับ คสช.ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้นายบุญเลิศได้รับการ "ปลดล็อค" กลับมาทำหน้าที่นายก อบจ.อีกครั้ง จากนั้นในการเลือกตั้งปี 62 กลุ่มนายบุญเลิศก็ได้ไฟเขียวให้ ส.อบจ.ในสังกัด "ฟรีโหวต" ไม่จำเป็นต้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทย


ว่ากันว่างั้นนั้นทำเอาแกนนำพรรคเพื่อไทย "สายเจ๊แดง" โกรธจัด และนำมาสู่คำประกาศที่ว่า "งานนี้แพ้ไม่ได้" ส่งผลให้สนามเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ดุเดือดเลือดพล่าน...แน่นอน