เปิดไทม์ไลน์"ความวุ่นวาย"ที่สน.ประชาชื่น จากกม.มองต่างมุม

แต่ปัญหามาเกิด เพราะมีคนที่ได้รับอิสรภาพจริงๆ มีเพียงคนเดียว คือ "หมอลำแบงค์" ส่วนรายอื่นๆ ถูกอายัดตัวต่อ ตามหมายเรียกและหมายจับตำรวจในอีกหลายท้องที่ ทำให้เหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 30 ต.ค. ซึ่งสรุปเป็นไทม์ไลน์ได้ ดังนี้

19.37 น. - ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ "หมอลำแบงค์" ได้รับการปล่อยตัวออกมา ขณะที่มีรถสายตรวจ บช.น.และรถควบคุมตัวผู้ต้องหา คุมตัวแกนนำอีก 3 คนไป สน.ประชาชื่น

20.00 น. - นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มองว่าการอายัดตัวต่อ ถือว่าผิดปกติ เพราะคดีอื่นๆ แกนนำทั้งสามคนได้รับทราบข้อกล่าวหา และพิมพ์มือหมดแล้ว

20.16 น. - นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ออกมาบอกกับมวลชนหน้าเรือนจำว่า ตำรวจจะคุมตัว 3 แกนนำไป สน.ประชาชื่น ทำให้มวลชนประกาศตามไปโรงพัก

20.30 น. - พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงศ์หอมหวล ผกก.สน.ประชาชื่น ชี้แจงว่าเป็นการอายัดตัวผู้ต้องหาตามกฎหมาย มี สภ.เมืองนนทบุรี สภ.พระนครศรีอยุธยา และ สภ.เมืองอุบลราชธานี

21.20 น. - ที่ สน.ประชาชื่น มวลชนฮือทุบรถควบคุมตัวผู้ต้องขังของตำรวจจนกระจกแตก หลังมีข่าวลือว่า 3 แกนนำถูกทำร้าย ขณะที่แกนนำทั้ง 3 ก็พยายามอ้างว่าพวกตนถูกทำร้าย

21.50 น. - "ไมค์" ภาณุพงศ์ และ เพนกวิน มีอาการไม่สบาย ตำรวจต้องนำตัวออกจากรถคุมขังมานั่งบริเวณด้านหน้า สน. พร้อมประสานรถพยาบาลเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล ท่ามกลางมวลชนเต็มหน้าโรงพัก ตะโกน "ปล่อยเพื่อนเรา - ปล่อยเพื่อนกู"

22.50 น. - "เพนกวิน" นั่งเก้าอี้ปราศรัยที่หน้า สน.ประชาชื่น โดยมี "รุ้ง" ปนัสยา นั่งอยู่ข้างๆ ท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ

23.15 น. - "เพนกวิน" กล่าวระหว่างปราศรัยว่า ตอนที่รัฐมนตรียุติธรรมเข้าไปพบในเรือนจำ มีการพูดต่อรองไม่ให้ไล่นายกฯ แต่จะแก้รัฐธรรมนูญ แต่ตนไม่ยอม ยืนยันให้นายกฯลาออกเท่านั้น

23.30 น. - แอมมี่ บอททอมบลูส์ ร้องเพลงหน้า สน.ประชาชื่น

23.43 น. - ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางถึง สน.ประชาชื่น เพนกวินประกาศให้มาจับท่ามกลางมวลชน ขณะที่ตัวเองต้องปฐมพยาบาล เพราะกระจกรถแตกใส่ศีรษะ

00.40 น. - "ไผ่ ดาวดิน" นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา แกนนำม็อบ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ปรากฏตัวที่ สน.ประชาชื่น

01.00-02.00 น. - ส่งตัว "ไมค์ ภาณุพงศ์" ไปโรงพยาบาลพระราม 9 หลังเป็นลมหมดสติ และถูกกระจกบาด ขณะที่ตำรวจเจรจากับแกนนำและทนาย

03.00 น. - พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ชี้แจงต่อมวลชนว่า คดียังสอบไม่เสร็จ แต่จะสอบสวนแกนนำทั้ง 3 คนให้แล้วเสร็จในคืนนี้ จากนั้นยื่นแถลงต่อศาล พร้อมให้สิทธิ์แกนนำทั้ง 3 คน เขียนคำร้องขอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

04.35 น. - นพ.ทศพร เสรีรักษ์ แจ้งมวลชนหน้า สน.ประชาชื่น ว่าตำรวจสอบปากคำ 2 แกนนำเสร็จแล้ว (เพนกวิน กับรุ้ง) และจะส่งตัวไปพักรักษาที่โรงพยาบาลพระราม 9 ส่วน "ไมค์ ระยอง" รู้สึกตัวแล้ว ทำให้แกนนำยุติชุมนุม

06.15 น. - ข้อมูลจากทวิตเตอร์ ไอลอว์ เอฟเอ็กซ์ (ILaw FX) ระบุว่า ตำรวจจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา เข้าแสดงตัวจับกุม "ไมค์ ระยอง" และสอบปากคำ หากสอบเสร็จ ก็ไม่ต้องคุมตัวไปศาล และ "ไมค์ ระยอง" มีสิทธิ์รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล

จากเหตุการณ์ทั้งหมด สรุปง่ายๆ คือ แกนนำที่ศาลสั่งปล่อยตัว เพราะไม่อนุญาตให้ฝากขังต่อ มี 4 คน แต่ในจำนวนนี้ 3 คน ถูกตำรวจอย่างน้อย 3 โรงพัก อายัดตัวไปดำเนินคดีต่อ ซึ่งเป็นคดีที่แกนนำเหล่านี้ เคยถูกแจ้งความดำเนินคดี คือ สภ.เมืองนนทบุรี สภ.พระนครศรีอยุธยา และ สภ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทั้ง 3 คนเคยไปเป็นแกนนำจัดชุมนุม

โดยแกนนำทั้ง 3 คน ประกอบด้วย "ไมค์ ระยอง" หรือ นายภาณุพงศ์ จาดนอก "เพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ "รุ้ง" ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล

ทว่า ประเด็นทางกฎหมายที่มองคนละมุม จนเกิดปัญหาก็คือ

ฝั่งตำรวจ มองว่ามีหมายจับ หรือหมายเรียก จึงมาขออายัดตัวไปดำเนินคดีต่อ ซึ่งการดำเนินคดีของตำรวจ ก็คือสอบปากคำให้เสร็จ และทำความเห็นส่งอัยการ ว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง

แต่ฝั่งม็อบ และทนายความ มองว่า คดีจากท้องที่เหล่านี้ โดยเฉพาะพระนครศรีอยุธยา แกนนำได้รับทราบข้อกล่าวหา สอบปากคำ และพิมพ์มือเป็นผู้ต้องหาไปแล้ว จึงถือว่าหมดอำนาจการควบคุมตัว เพราะอำนาจการควบคุมตัวมีแค่ 48 ชั่วโมง หลังได้ตัวมาสอบสวน

ขณะที่ฝ่ายตำรวจอ้างว่า แม้จะเคยสอบปากคำ และพิมพ์มือไปแล้ว แต่ยังสอบสวนไม่เสร็จ เมื่อศาลปล่อยตัวในคดีอื่น จึงมีอำนาจมาอายัดตัวไปสอบสวนต่อ ถ้าสอบเสร็จ ก็อาจจะไม่ฝากขังก็ได้ แต่ถ้าสอบไม่เสร็จ ก็จะนำตัวไปฝากขัง ส่วนจะได้ประกันหรือไม่ เป็นอำนาจของศาล

สรุปก็คือ ทั้งสองฝ่ายอ้างกฎหมาย ก็มีส่วนถูกทั้งคู่ อยู่ที่ว่าจะมองมุมไหน แต่สุดท้ายเรื่องนี้จบด้วยการให้ตำรวจสอบเพิ่มให้เสร็จ โดยไม่ต้องนำตัวไปฝากขัง เนื่องจากทั้ง 3 คน มีอาการบาดเจ็บและอ่อนเพลีย จากการที่มวลชนทุบกระจกรถควบคุมตัวจนแตกใส่แกนนำ

แต่ปัญหาก็คือ ยังมีโรงพักที่ตำรวจไม่ได้มาแสดงตัวเพื่อสอบปากคำเพิ่ม เช่น สภ.เมืองอุบลราชธานี และท้องที่อื่นๆ จึงต้องรอดูว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป