svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"ดร.เสรี" ชอบใจ "บิณฑ์ - ปุ๋ย" สู้ทัวร์ รักสถาบัน

30 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20 - 15.00 น.ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (30 ต.ค.) "ทอม ทศวรรต ทะสุวร" เปิดใจสัมภาษณ์ "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" เกี่ยวกับประเด็นร้อนในตอนนี้

"ดร.เสรี" ชอบใจ "บิณฑ์ - ปุ๋ย" สู้ทัวร์ รักสถาบัน

ล่าสุดมีคลิปเด็ก 5 คนที่มีลักษณะล้อเลียน จาบจ้วง ล่วงละเมิด?
"เป็นการกระทำที่ไม่บังควร เป็นการกระทำที่พสกนิกร ที่จงรักภักดีเห็นแล้วเจ็บปวดหัวใจ สิ่งที่ทำย่ำยีหัวใจประชาชนเป็นจำนวนมาก คนเราแม้แต่ล้อเลียนเจ้านายเขาก็ไม่ทำกัน ล้อเลียนครูบาอาจารย์ก็ไม่ทำกัน ล้อเลียนพ่อแม่ก็ไม่ทำกัน นี่คุณล้อเลียนพระมหากษัตริย์ สิ่งที่คุณเอามาแต่งเป็นเพลงเชียร์ เป็นถ้อยคำที่พระองค์ปฏิสันถารกับประชาชน แล้วขณะเดียวกันคุณทำหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ แล้วข้อความที่คุณพูด เราไม่สามารถพูดออกอากาศได้ด้วยซ้ำไป ซึ่งตรงนี้เป็นการกระทำที่แย่มาก อยากถามครูบาอาจารย์ พ่อแม่สอนเด็กพวกนี้ยังไง ถึงได้กระทำตัวแบบนี้"
ล่าสุดผอ.ออกมาขอโทษ?
"ทำไมคนที่ผิดไม่ออกมาพูดเอง ทำไมไม่ให้เด็กมาพูดสิว่าเขาทำอย่างนั้นเพราะอะไร ครูบาอาจารย์หรือพ่อแม่เคยพูดมั้ยว่าสิ่งที่ทำไม่ถูกไม่ควร แล้วให้ลูกแสดวความสำนึก การที่ผอ.ไปหาตร. ไปให้การกับตร. แล้วเด็กล่ะ ได้พูดอะไรมั้ย แสดงออกอะไรมั้ยที่แสดงถึงความสำนึกว่าสิ่งที่ทำไม่เหมาะไม่ควร"
ถ้าอาจารย์เป็นพ่อแม่เด็กจะให้ทำยังไง?
"แล้วแต่ว่าเป็นพ่อแม่ประเภทไหน ถ้าเป็นพ่อแม่ที่เห็นด้วยกับลูกก็คงสะใจ ปรบมือให้ลูก ประกาศจะให้รางวัลลูก แต่ถ้าเป็นพ่อแม่ที่จงรักภักดี เป็นพสกนิกรของไทยก็ต้องเรียกลูกมาคุยว่าทำแบบนี้ไม่เหมาะสม เล่าให้ลูกฟังว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างไรต่อประเทศไทย เมื่อลูกเข้าใจแล้วก็ให้ลูกขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบรมฉายาลักษณ์ แล้วทำคลิปนี้ออกมาเผยแพร่ แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ลูกเข้าใจและทำด้วยความสำนึกที่จริงใจอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำเพราะพ่อแม่ขอร้องให้ทำตรงนี้ เพื่อให้ความร้อนแรงมันลดลงเพราะตอนนี้เฟซบุ๊กแรงมาก ด่าทั้งอาจารย์ ด่าทั้งตัวเด็ก 5 คน และด่าทั้งพ่อแม่ ตรงนี้ถ้าหากไม่ทำอะไรที่แสดงถึงความสำนึก ความร้อนแรงเรื่องนี้ไม่จบ"
เมื่อวานปูพรมแดง จัดล้อเลียนเลย?
"พรมแดงหรืออาร์ตเลนของเขาที่สีลม เป็นการล้อเลียนเจ้าฟ้า เป็นสิ่งที่ไม่บังควร และที่สำคัญเนื้อหาสาระที่คุณล้อเลียน ใช่ความจริงหรือเปล่า คุณรู้ข้อเท็จจริงหรือเปล่า ไม่ใช้นึกอยากกล่าวหาอะไร ก็พยายามเอาชุดความคิดของคุณยัดเยียดใส่ประชาชน แต่ขอโทษค่ะ คนไทยกินข้าวหอมมะลิ การยัดเยียดของคุณไม่ได้ผลหรอก คนที่เขาภักดีเขาก็ดูคุณหน่อมแน้มมุ้งมิ้ง อะไรต่างๆ นานา ที่เริ่มแสดงอาการไร้สาระมากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่คุณจะดูว่าคนมีวุฒิภาวะ เฉลียวฉลาด กล้าหาญเรียกร้องหาประชาธิปไตย ไม่ใช่เลยค่ะ เขามองว่าคุณกำลังเริ่มไร้สาระมากยิ่งขึ้น เหมือนกับหนึ่งได้ชุดความคิดที่ไม่ถูกต้องมา สองคึกคะนอง ทำแล้วสนุกสนาน เท่"
เด็กพวกนี้ได้รับชุดข้อมูลผิดๆ?
"มีคนจงใจ ตรงนี้ไม่โทษเด็ก ต้องบอกว่ามีคนจงใจให้ข้อมูลผิดบ้างเลือกพูดบางส่วนบ้าง บิดเบือนบ้าง แต่ก็โทษฝ่ายจงรักภักดีเหมือนกัน ทำไมไม่ให้ชุดข้อมูลไปเปรียบเทียบ ให้เขาพินิจพิเคราะห์ ขอร้องวิงวอนเหล่าบรรดาผู้จงรักภักดี อย่าเป็นพลังเงียบอีกต่อไปเลย จงเป็นพลังที่ให้ข้อมูลข่าวสารโดยไม่กลัวว่าทัวร์ลง ทุกวันนี้หลายคนจงรักภักดีเป็นพลังเงียบ ไม่อยากพูดอะไรเลย เพราะว่ากลัวทัวร์ลง แต่ตอนนี้ดีใจอย่างนึงนะ มีดาราจำนวนไม่น้อย เริ่มตระหนักแล้วว่าหมดเวลากลัวทัวร์ลง เมื่อต้องการแสดงความจงรักภักดี เมื่อต้องการให้ข้อมูลอันใด จงทำด้วยความกล้าหาญและสำนึกแห่งความภักดี"

"ดร.เสรี" ชอบใจ "บิณฑ์ - ปุ๋ย" สู้ทัวร์ รักสถาบัน

กรณีคุณปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำไมทัวร์ลง?
"เพราะว่ามันเป็นพฤติกรรมทางโน้นอยู่แล้ว เขาเรียกหาประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมเขาคือต้องบังคับคนให้คิดเหมือนเขา ใครเป็นคนดัง ดารา นักร้อง แชมป์กีฬา นางงาม เขาก็บังคับให้แสดงความคิดเห็น ใครไม่แสดงความคิดเห็น เขาก็เอาทัวร์ไปลง"

แบบนี้เรียกประชาธิปไตยได้เหรอ?
"ก็ไม่ใช่ไง แล้วถ้าใครแสดงความคิดเห็นไม่ตรงกับฝั่งเขา เขาก็จัดการ ทีนี้ปุ๋ยเขาก็มองเห็นว่าสิ่งที่ทำไม่ถูกไม่ต้อง ถึงปุ๋ยโตที่อเมริกา แต่พ่อแม่เป็นไทย เขาก็พูดด้วยซ้ำว่าสอนลูกให้ตระหนักถึงความเป็นไทย ปุ๋ยเป็นคนมีอิทธิพลต่อความคิด คงทำให้ปวินเขาไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ถ้าให้พูดข้างเดียวทุกคนก็เชื่อปุ๋ย เขาก็ออกมาเลย ทีนี้พอออกมา วิญญูชนทั้งหลายเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคำพูดปุ๋ยกับปวิน ไม่ต้องดูเนื้อหา เอาแค่ลีลาและถ้อยคำ โอ้โห นางฟ้ากับคนอยู่ในนรกอเวจี คนนึงพูดสุภาพ มีเหตุผล อีกคนได้แต่ด่าทอ ต่อว่า ใช้ถ้อยคำต่ำตมต่างๆ นานา ตรงนี้วิญญูชนย่อมรู้ได้ ก็แสดงถึงความกล้าหาญของปุ๋ย ที่เขามองว่าถึงเวลานี้ไม่พูดไม่ได้แล้ว เพราะเกินเลยไปเยอะ ทำอะไรไม่เหมาะสม และอันตรายต่อความมั่นคงของสถาบัน ปุ๋ยในฐานะคนไทยที่แม้เติบโตในอเมริกา เขาก็รับไม่ได้"

คุณปุ๋ยทำการกุศลให้เด็กหลายโครงการ ปวินทำอะไร?
"ด่าอย่างเดียวไง (หัวเราะ) เราก็ไม่รู้ หลายคนก็ตั้งคำถามว่าปวินมีปมอะไร ถึงรู้สึกว่ารังเกียจสถาบัน และใช้ถ้อยคำ ใช้เรื่องราวที่เป็นความเท็จ กล่าวหาถ้อยคำต่ำทรามในการด่าทอต่อว่า เราก็ไม่รู้ว่าทำไมทำอย่างนั้น เชื่อว่าให้คนนั่งนึกจนตายก็หาไม่เจอ แต่ที่หาเจอคือหยาบช้า ด่าว่า สร้างเรื่องเท็จ มโนเก่ง แต่น่ากลัวและน่าห่วงใยคือคนตามเพจเขาเป็นล้านๆ คนวิเคราะห์นะก็ไม่รู้เชื่อได้มั้ยว่ามีคนจำนวนหนึ่งในยุคนี้ ชอบฟังข้อความที่พูดไปด่าไป ก็ไม่รู้นะ ถ้ารายการเราจะเอาเรตติ้งสูงจะต้องเป็นแบบนั้นหรือเปล่า คือพูดไปแล้วด่าไป เขาบอกเดี๋ยวนี้คนจำนวนหนึ่งชอบแบบนี้ ใครพูดเรื่อยๆ มีแต่เนื้อหา ไม่มีคำด่า จะเห็นนะคำที่สะกวดด้วย ส. ไม้หันอากาศ ส. ก็มีเยอะ คำที่เป็นลิ้นสองแฉกก็มีเยอะ มีหลายคำ อวัยวะเพศมาทุกส่วนของร่างกาย"

"ดร.เสรี" ชอบใจ "บิณฑ์ - ปุ๋ย" สู้ทัวร์ รักสถาบัน

คนจำนวนล้านๆ ตามเขา เราเชื่อได้มั้ย?
"ก็ตอนนี้เขาก็มีการพูดจากันว่าเป็นแอคเคาท์หลุมบ้าง อวตารต่างๆ นานา ก็แล้วแต่ว่าเราอยากเชื่อคนทำวิจัยแล้วมาเล่าให้เราฟังมั้ย หรือเป็นอย่างที่พี่วิเคราะห์ว่ามีคนเป็นล้านจริง เพราะมีคนชอบสนุก การได้ฟังคนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย"
พอคุณอั้ม พัชราภา ไม่พูดอะไรก็ทัวร์ลง?
"เพราะอั้มมีคนตามเยอะเหมือนกัน ฉะนั้นเขาก็มองว่าอั้มเป็นคนมีอิทธิพล ก็อยากให้อั้มพูดอะไรก็ตามที่เข้าข้างเขา อันนี้แหละที่เป็นคำย้อนแย้งตัวเอง คุณเรียกหาประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมไม่ได้เป็นประชาธิปไตย ทำไมปุ๋ยเขาจะแสดงความคิดเห็น แตกต่างจากพวกคุณไม่ได้เหรอ มันสิทธิ์ของปุ๋ยเขา ขณะเดียวกัน อั้มเขาอยากอยู่สบายๆ ไม่ยุ่งกับใคร เขาก็เลยไม่พูดข้างใดข้างหนึ่ง ถามว่ามันเป็นสิทธิของเขามั้ย แล้วคุณจะไปบังคับเขาทำไม ถ้าสมมติอั้มแสดงมาแล้วไม่ได้อยู่ข้างคุณ อยู่ข้างคนจงรักภักดี คุณจะเอาทัวร์ไปลงเขาอีกมั้ย"
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เห็นภาพชัด ทัวร์ไปลงเขา?
"ก็คุณบิณฑ์เขาทนไม่ได้ เขาพูดชัดเจน คุณอยากจะออกมาเรียกร้องทางการเมืองอย่างไร ด่าพลเอกประยุทธ์ ด่ารัฐบาล เรียกหาประชาธิปไตยเขาไม่ยุ่ง เพราะเขาไม่ยุ่งกับการเมือง แต่เมื่อเขาเห็นภาพสกัดกั้นขบวนเสด็จพระราชินี เขาเห็นเรื่องการยกที่ไม่ใช่ยกสามนิ้ว ยกนิ้วกลางนิ้วเดียว คนก็รู้ความหมาย บิณฑ์ถึงพูดออกมา เขาพูดแรงไปนิดนึง เขาพลาดที่บอกว่าถ้าเขาอยู่ตรงนั้นเขาตบเลยนะ แต่ตอนหลังเขามาอธิบายว่าเขาไม่ได้คิดจะตบคนชูสามนิ้ว ไม่ได้คิดจะตบคนชุมนุม คนทำอะไรก็ตามไม่ควรใช้ความรุนแรง ให้กฎหมายจัดการก็แล้วกัน แต่อย่างว่าแหละ สัญลักษณ์แบบนี้ ถ้าเกิดฟ้องร้องทางกฎหมาย ยังไงก็เอาผิดไม่ได้ เพราะนิ้วกลางก็ไม่ใช่วัฒนธรรมไทย เป็นวัฒนธรรมฝรั่งมังค่า การตีความก็อยู่ที่คนที่มอง แต่กฎหมายเอาเรื่องเขาไม่ได้หรอก"
คุณบิณฑ์ทำการกุศลมาหลากหลายอย่าง แต่ทำไมการแสดงความคิดเห็นของเขา คนต้องไปวุ่นวายอะไรมากมาย?
"เวลาบิณฑ์ออกมาแสดงความจงรักภักดี มันก็ขัดหูขัดตาคน ซึ่งต้องการล้มล้างสถาบัน เขาก็มาบอกว่าเอาเงินบริจาคมาให้ดูหน่อยโน่นนี่นั่นต่างๆ นานา ซึ่งปรากฎว่าเขาไม่ได้ย่อท้อเลยนะ เขาแสดงรายละเอียดยิบเลยว่าค่าใช้จ่ายเขามียังไงบ้าง ให้จังหวัดไหน เมื่อไหร่ ชัดเจนไปหมด มันก็มีนักการเมืองพรรคฝ่ายค้านคนนึงออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบ หลายคนก็ตั้งคำถามว่า หนึ่งคุณบิณฑ์ทำมาหลายสิบปีแล้ว คุณไม่เคยคิดตรวจสอบเขา แต่พอเขาแสดงความคิดเห็นจงรักภักดี ปกป้องสถาบัน คุณมาเรียกร้องในการตรวจสอบเขา สามเขาก็ตั้งคำถามระหว่างคุณกับบิณฑ์ใครทำอะไรให้ประเทศชาติมากกว่ากัน สิ่งที่คุณทำไม่ได้กระผีกของบิณฑ์เลย สุดท้ายเงิบมั้ยล่ะ เขาแสดงได้ละเอียดยิบเลย"

"ดร.เสรี" ชอบใจ "บิณฑ์ - ปุ๋ย" สู้ทัวร์ รักสถาบัน

กว่า 30 ปีที่บิณฑ์ทำเพื่อสังคม แต่มาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง กลับถูกด้อยค่าลง?
"ก็บังเอิญเขาอยู่ตรงกันข้ามกับม็อบ ถ้าเขาออกมาบอกว่าอย่าไปทำร้ายเด็ก เด็กเขาทำถูกต้อง เด็กออกมาเรียกหาประชาธิปไตย รัฐบาลต้องใคร่ครวญพิจารณา ถ้าเขาออกมาแบบนี้ รับรองเขาจะเลิศเลอเหมือนเดิม เพราะฝ่ายจงรักภักดี ถ้าบิณฑ์ออกมาอย่างนั้นจะไม่ด่าบิณฑ์ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แบบนี้พอบิณฑ์ออกมาตรงข้ามไง เฮ้ย ทำงี้ได้ไง สถาบันต้องคงอยู่ จาบจ้วงล่วงละเมิดได้ยังไง แค่นั้นแหละ สิ่งที่บิณฑ์ทำมา 30 ปีหมดเลยในสายตาคนพวกนั้น แต่บังเอิญอีกข้างนึงเขาก็ชื่นชมบิณฑ์ที่กล้าหาญ ถอดเสื้อลาออก แล้วสิ่งที่บิณฑ์เขาเรียกร้องกำลังจะได้ผล บิณฑ์บอกเลยเหล่าบรรดาคนดังทั้งหลาย ออกมาแสดงความคิดเห็นกันเยอะๆ ไม่ต้องกลัวทัวร์ลง ตอนนี้กำลังได้ผล เริ่มมีแล้ว ต่อไปจะมีดาราน้อยใหญ่ นักร้อง นักกีฬา ออกมากันเยอะขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดี พวกนี้เป็นผู้มีอิทธิพลน่าจะดึงเด็กที่ไม่เคยรับรู้ข้อมูลอีกฟาก ได้มาฟังข้อมูลฟากนี้ แล้วด้วยความฉลาดของเขา เขาจะเอาข้อมูลไปพิจารณา สุดท้ายด้วยตรรกะและการใคร่ครวญ เราจะดึงเขาออกมาได้ส่วนหนึ่ง"

"ดร.เสรี" ชอบใจ "บิณฑ์ - ปุ๋ย" สู้ทัวร์ รักสถาบัน

แกนนำหลายคนบอกว่าไม่ต้องการล้มล้าง แค่ต้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษ้ตริย์เฉยๆ?
"คำพูด พูดได้ที่จะปฏิรูป แต่การกระทำมันไม่ใช่เลย การแถลงการณ์วันที่ 10 ส.ค. ข้อเรียกร้องปฏิรูป 10 ข้อ การที่พวกคุณเปล่งวาจาหยาบคาย ขัดขวางขบวนเสด็จ การที่คุณล้อเลียนพระเจ้าอยู่หัว การที่คุณล้อเลียนพระราชินี คุณล้อเลียนเจ้าฟ้า การที่คุณไปอ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูตเยอรมัน ข้อความในจดหมายนั้นเป็นเท็จเกือบหมด ตรงนี้เหรอที่เรียกว่าปฏิรูป การที่คุณไปลงให้คนไม่รับปริญญา คุณไปทำสแตนดี้บุคคลบางคนเพื่อให้นิสิต นักศึกษา บัณฑิตไปถ่ายรูปด้วย คุณกำลังด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วคุณจะมาบอกว่าคุณปฏิรูปได้อย่างไร ถ้าคุณปฏิรูป คุณไม่ทำอย่างนี้"
มายด์ที่เป็นแกนนำ บอกว่า 6 ปีที่ผ่านมา ปัญหาความเหลื่อมล้ำไม่ได้ขยับไปไหนเลย?
"แหม อยากให้มายด์มีอายุสัก 3 พันปี เขาจะได้รู้ว่าความเหลื่อมล้ำเกิดมาพร้อมมนุษยชาติ เรามีหัวหน้าเผ่ามั้ยสมัยก่อน มีแม่ทัพมั้ย มีพระเจ้าแผ่นดิน มีฮ่องเต้ มีอุปราช มีขุนนาง มีราชครูมั้ย มีมาตั้งนานแล้ว หนึ่งทุนทางสังคมคนเราไม่เท่ากัน สองความสามารถคนเราไม่เท่ากัน การที่คุณเรียนไม่เก่งคุณจะโทษสังคมเหรอ การที่คุณไม่มีความสามารถในการแข่งขัน แล้วทำให้คนอื่นเอาชนะคุณ คุณโทษสังคมหรือโทษตัวคุณเอง"
แกนนำแต่ละคน หนึ่งเรียนไม่จบ ไม่ได้เป็นนักเรียนเรียนดี หรือเป็นผู้นำอะไรได้?
"พูดแบบนี้ต้องระวัง เดี๋ยวเขาจะไปควักคนเก่งมาหนึ่งคน แต่ว่าโดยส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาค่อนข้างผิดหวังกับสังคม คนเราเวลาไม่สมหวังทั้งการเรียน ฐานะ เศรษฐกิจ เราอย่าไปโทษสังคม ดูที่ตัวเราก่อน เราขยันมั้ย เรียนเก่งมั้ย พ่อแม่อบรมเราอย่างไร เรามีพัฒนาการอย่างไร ดูตัวเองก่อน ก่อนไปโทษข้างนอก อย่างที่เขาบอก หนึ่งนิ้วชี้ไปที่หน้าใคร ที่เหลือชี้มาที่เรา พี่คิดว่าคนพวกนั้นต้องพยายามคิดให้ดีว่าทั้งหมดที่เกิดกับตัวเขา ที่อยากเป็นโน่นเป็นนี่แล้วไม่ได้เป็น มันเกิดจากตัวเขาเองหรือระบอบสังคมกันแน่ มันมีตำราอยู่นะ ระบอบสังคมมีผลแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ อีก 50 เปอร์เซ็นต์เกิดจากกรรมพันธุ์ว่าพ่อแม่เฉลียวฉลาดแค่ไหน เกิดจากการอบรมเลี้ยงดู สร้างค่านิยม อีก 40 เปอร์เซ็นต์ คือตัวเราเอง เพราะฉะนั้นอย่าไปโทษสังคมเพราะมีผลแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ พ่อแม่เลี้ยงดู

"ดร.เสรี" ชอบใจ "บิณฑ์ - ปุ๋ย" สู้ทัวร์ รักสถาบัน

logoline