svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ผู้อพยพก่อเหตุสังหารในโบสถ์ฝรั่งเศส

30 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประกาศว่าฝรั่งเศส "จะไม่ยอมให้กับการก่อการร้าย" หลังจากมีผู้เสียชีวิต 3 รายจากการโจมตีของคนร้ายที่มีมีดเป็นอาวุธ ภายในโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองนีซ เมืองริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศสเมื่อวาน

ผู้นำฝรั่งเศสอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวานว่า "เป็นความบ้าของพวกมุสลิมและผู้ก่อการร้าย เป็นอีกครั้งที่ในเช้าวันนี้ มีเพื่อนร่วมชาติของเรา 3 รายเสียชีวิตที่เมืองนีซ และชัดเจนว่าฝรั่งเศสกำลังถูกโจมตี" 
การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดในประเทศที่สูงขึ้นจากประเด็นมุสลิมหัวรุนแรง การเป็นประเทศที่ไม่เคร่งศาสนา และเสรีภาพในการพูด
ผู้เคราะห์ร้ายที่เมืองนีซ ถูกคนร้ายแทงในโบสถ์นอเทรอดาม บาซิลิก้า ในกลุ่มนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกเชือดคอ อีกคนเป็นชายที่เสียชีวิตหลังจากถูกแทงหลายครั้ง ผู้เสียชีวิตรายที่ 3 เป็นผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บภายในโบสถ์ แต่หนีออกไปเสียชีวิตในร้านกาแฟที่อยู่ใกล้เคียง
นายบราฮิม โออิสซาอุย ซึ่งเกิดเมื่อปี 2542 ถูกตำรวจระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยโจมตี โดยมีรายงานว่าเขาเดินทางมาถึงยุโรปครั้งแรกที่เกาะลัมเปดูซา ทางใต้ของอิตาลี ซึ่งหมายความว่าเขาเป็นผู้อพยพที่เข้ามาอยู่ในฝรั่งเศส
นายกเทศมนตรีคริสเตียน เอสโตรซี ของเมืองนีซ บอกว่าคนร้ายถูกยิงโดยตำรวจ แต่ยังมีชีวิตอยู่ และถูกควบคุมตัวแล้ว และทุกอย่างชี้ไปที่การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และคนร้ายยังคงพูดซ้ำ ๆ คำว่า " อัลลาฮู อัคบาร์ " - ซึ่งเป็นภาษาอาหรับที่หมายถึง " พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่า"  ในขณะที่รับการรักษาบาดแผลโดยแพทย์
ด้านเจอราร์ด ดาร์มานิน รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสเป็นประธานการประชุมฉุกเฉินที่กระทรวงเพื่อตอบโต้เหตุุที่เกิดขึ้น  หลังการประชุม มาครงเดินทางมาที่เมืองนีซพร้อมกับรัฐมนตรีในช่วงบ่าย เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ รวมถึงพบปะกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ทีมกู้ภัย รวมถึงนายกเทศมนตรี และฝ่ายนิติบัญญัติในท้องถิ่น
ส่วน ฌอง คาสเท็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสบอกว่า ระดับการเตือนภัยของประเทศถูกยกขึ้นเป็น "ภาวะฉุกเฉิน" โดยระดับนี้หมายถึง "ระดับการเฝ้าระวังสูงสุด" ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในกรณีที่เกิดภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามา หรือทันทีหลังการโจมตี คาสเท็กซ์บอกว่าการตอบสนองของรัฐบาลจะเป็นแบบ "หนักแน่น ไม่หยุดยั้ง และทันที" อัยการฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายของฝรั่งเศสก็กำลังดำเนินการสอบสวนการโจมตีดังกล่าว
นอกจากนี้ประเทศยังได้จัดเจ้าหน้าที่ทหาร 7,000 นาย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยตามโรงเรียน โบสถ์ และศาสนสถานอื่น ๆ

เมืองนีซเคยตกเป็นเป้าหมายของการก่อการร้ายมาแล้วในอดีต โดยเมื่อในปี 2559 มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายหลังจากคนร้ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มไอเอส  ได้ขับรถบรรทุกขนาด 20 ตันเข้าไปในฝูงชน
ส่วนเอริค ซิออตติ สมาชิกสภานิติบัญญัติฝรั่งเศสจากเมืองนีซ บอกว่าชาวฝรั่งเศสทั้งประเทศอยู่ในการไว้ทุกข์ เขาบอกว่า " เช่นเดียวกับสัญลักษณ์ของเมือง ซึ่งก็คือ นอเทรอดาม บาซิลิก้า ที่ยังคงลั่นระฆังอยู่ ประเทศของเราและประวัติศาสตร์ของเราถูกโจมตีในวันนี้  แต่ความป่าเถื่อนของพวกมุสลิมจะไม่ทำให้เราเงียบ!"
ในเวลา 15.00 น. ระฆังโบสถ์ทั่วฝรั่งเศสพร้อมใจกันตี เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต 

ผู้อพยพก่อเหตุสังหารในโบสถ์ฝรั่งเศส


ผู้อพยพก่อเหตุสังหารในโบสถ์ฝรั่งเศส

ในสุนทรพจน์เมื่อวาน มาครงบอกว่าฝรั่งเศสต้องใช้การโจมตีครั้งนี้ เพื่อการสามัคคีกัน และไม่เข้าสู่ "จิตวิญญาณแห่งการแบ่งแยก"
การโจมตีเมื่อวานเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ซามูเอล ปาตี ครูโรงเรียนมัธยมถูกตัดศีรษะในเขตชานกรุงปารีส หลังจากแสดงการ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลามระหว่างบทเรียนเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งต่อมา มาครงก็ได้ออกมาปกป้องหลักการเสรีภาพในการพูด และบอกว่าฝรั่งเศสจะไม่ "ยอมแพ้"  ซึ่งความคิดเห็นของมาครง ทำให้เกิดความโกรธแค้นอย่างกว้างขวางในหลายประเทศที่มีมุสลิมเป็นคนส่วนใหญ่

ผู้อพยพก่อเหตุสังหารในโบสถ์ฝรั่งเศส

ผู้อพยพก่อเหตุสังหารในโบสถ์ฝรั่งเศส

อย่างประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอดวน ของตุรกีและนายกรัฐมนตรีอิมรอน ข่าน ของปากีสถาน ก็วิพากษ์วิจารณ์มาครงอย่างหนัก ส่วนผู้ค้าปลีกก็ต้องเผชิญกับการเรียกร้องให้คว่ำบาตรสินค้าฝรั่งเศสในคูเวต กาตาร์และจอร์แดน
แต่หลังเกิดเหตุเมื่อวาน กระทรวงการต่างประเทศตุรกีออกมา "ประณาม" การโจมตีที่เมืองนีซ  และ "แสดงความเสียใจต่อญาติของผู้ที่เสียชีวิต"  ด้านสภาความศรัทธาของชาวมุสลิมแห่งฝรั่งเศส ก็ประณามการโจมตี และเรียกร้องให้ชาวมุสลิมฝรั่งเศสยกเลิกการเฉลิมฉลองเทศกาลเมาลิดเมื่อวานด้วย

ผู้อพยพก่อเหตุสังหารในโบสถ์ฝรั่งเศส

logoline