เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 28 ต.ค 63 ที่บ้านแหลมริ่ว หมู่ที่ 4 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายเจริญ ไหมด้วง ปลัดอำเภอหลังสวน พร้อมด้วย นายบรรยง อินทมาตย์ นายก อบต.บางน้ำจืด รับแจ้งว่า มีบ้านชาวบ้านถูกพายุพัดถล่มบ้านพังเสียหายอย่างหนัก จึงเข้าไปตรวจสอบพร้อมด้วยนางนงเยาว์ มาศสถิต ผญบ.หมู่ที่ 4 นายสุจิต กันถาวร ส.อบต.หมู่ที่ 4 จนท.จำนวนหนึ่งรุดที่เกิดเหตุ
โดยเฉพาะที่บ้านเลขที่ 150 หมู่ที่ 4 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นบ้านตั้งอยู่ริมทะล ในอ่าวบางน้ำจืด ซึ่งมีนายสมบูรณ์ เนตรสุวรรณ อายุ 84 ปี และ นางเนิ่น เนตรสุวรรณ อายุ 78ปี สองตายายเป็นเจ้าของบ้านอยู่เพียงลำพังสองคน ตจรวจสพบพื้นที่เสียหายพบว่าบริเวณหน้าบ้านมีต้นละมุดขนาดใหญ่ อายุมากกว่า 60 ปี ถูกลมพัดจนล้มแบบถอนรากถอนโคน หักโค่นทับสายไฟฟ้าล้มระเนระนาด ขณะที่สองตายายยังอยู่ในอาการหวาดผวาพร้อมนำไปดูความเสียหาย สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้2 ชั้น กระเบื้องหลังคาถูกพายุพัดกระหน่ำทั้งหลุดหายและแตกหักร่วม 200 แผ่นจนไม่สามารถอาศัยบนชั้นสองได้ ขณะที่บริเวณบ้านในส่วนที่มีการต่อเติมด้านล่างก็พบว่าได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน
นายสมบูรณ์ เจ้าของบ้านเล่าให้ฟังว่า ในช่วงเย็นขณะกำลังอยู่ในบ้านอยู่ดีๆท้องฟ้าก็มืดมิดแล้วเกิดพายุหมุนเป็นเหมือนพายุงวงช้างตั้งเป็นริ้วยาวมาจากทางภูเขาและตรงเข้ามาที่บ้าน ดึงเอาต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขวางทางล้มทับสายไฟฟ้าและหอบเอากระเบื้องหลังคาปลิวว่อนโดยขณะเกิดเหตุทั้ง2ตายายต่างพากันวิ่งหนีจนหลบเข้ามาในบ้านคิดว่าจะปลอดภัย พร้อมกับได้ยินเสียงดังโครมครามนานราวๆ 15 นาที ก็สงบลงจึงออกมาสำรวจและพบความเสียหายดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีพื้นที่หมู่บ้านอื่นๆที่ได้รับความเสียหาย เช่น หมู่ที่ 13 โดยนายเสนอ ศรีนาค ผญบ.หมู่ที่ 13 ได้รับแจ้งจากนายพงศกร ลิมานนท์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 78 หมู่ 13 ต.บางน้ำจืด อาชีพ ทำนากุ้ง ว่าบ้านได้ถูกพายุพัดถล่มพังเสียหายทั้งหลังจากฤทธิ์พายุหมุน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสำรวจความเสียหายและเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง