ในขณะที่ราคายางมีการปรับสูงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์ สถานการณ์โรคเชื้อราใบร่วงในยางพาราก็มีการเริ่มระบาดเกิดขึ้นและมีแนวโน้มขยายพื้นที่การระบาดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ต้นยางที่ติดเชื้อราใบร่วงมีผลผลิตลดลง 50-70 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนการแพร่ระบาดของเชื้อราใบร่วงต้นยางพาราจะระบาดได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากจากสภาพอากาศชื้นที่ทำให้เชื้อราขยายได้รวดเร็ว (28 ต.ค.63) นายสุรชัย บุญวรรณโณ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เขตภาคใต้ตอนล่าง (จ.สตูล,สงขลา,ปัตตานี,ยะลา, นราธิวาส) เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว"จากการตรวจสอบล่าสุดวันนี้ พบว่าพื้นที่เกิดการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารามีจำนวนทั้งสิ้น 11 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นราธิวาส, ยะลา, ปัตตานี, สงขลา, สตูล, พัทลุง, ตรัง, กระบี่, พังงา, ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี
โดยพื้นที่ๆมีการระบาดหนัก ประกอบด้วยจ.นราธิวาส, ยะลา, สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งปลูกยางสำคัญ โดยเฉพาะจ.สงขลาในพื้นที่ 4 อำเภอคือ อ.เทพา, สะบ้าย้อย, จะนะ, และนาทวี "จากการคาดการณ์ในปีนี้คาดว่าพื้นที่มีการระบาดเชื้อราใบร่วงน่าจะเกิน 1 ล้านไร่ จากปีที่ผ่านมาประมาณ 900,000 กว่าไร่ ปีที่แล้วแค่ 10 จังหวัดแต่ปีนี้เพิ่มเป็น 11 จังหวัด ซึ่งจะมีผลต่อผลผลิตยางที่ลดลง"
ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เขตภาคใต้ตอนล่าง กล่าวและว่า ในวันนี้ (28 ต.ค.63) ได้เชิญเครือข่ายสถาบันเกษตกรชาวสวนยาง การยางแห่งประเทศไทย ระดับเขตภาคใต้ตอนล่างประชุม เพื่อหามาตรการป้องกันและกำหนดมาตรการแก้ปัญหาการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่ โดยได้เชิญผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยางมาให้คำแนะนำและวิธีการดำเนินการ
ด้านนายศตวรรษ จันทร์ทอง ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตกรชาวสวนยาง การยางแห่งประเทศไทยอ.นาทวี จ.สงขลา กล่าวว่า ในพื้นที่อ.นาทวี ซึ่งเป็นแหล่งปลูกยางสำคัญของจ.สงขลาล่าสุดพบว่าหลายพื้นที่มีการแพร่ระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราค่อนข้างน่าเป็นห่วงในช่วงระยะเวลาประมาณ 20 วันที่ผ่านมา พบว่าบางหมู่บ้านมีการแพร่ระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราถึง2,000 ไร่
"อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการป้องกันและแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน เนื่องจากการระบาดของค่อนข้างเร็ว จากสภาพอากาศที่มีความชื้นจากฝนตกเอื้ออำนวย ซึ่งมีผลกระทบต่อผลผลิตที่ลดลงทันทีกว่า50เปอร์เซ็นต์" ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตกรชาวสวนยาง การยางแห่งประเทศไทย อ.นาทวี กล่าว