ในการเจรจากับคู่เจรจาฝ่ายอินเดีย ปอมเปโอและเอสเปอร์ได้ลงนามในข้อตกลงขยายการแบ่งปันข้อมูลดาวเทียมทางทหาร และเน้นเรื่องความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างวอชิงตันและนิวเดลี โดยมุ่งหวังไปที่การตอบโต้จีน
งานนี้ รัฐมนตรีทั้งสองของสหรัฐ ยังได้ไปแสดงความเคารพต่อทหารอินเดียที่เสียชีวิตในการป้องกันประเทศ ซึ่งก็รวมถึงทหาร 20 นายที่เสียชีวิตเมื่อช่วงต้นปี จากการปะทะกับทหารจีน
ปอมเปโอ บอกว่า" สหรัฐฯจะยืนหยัดร่วมกับประชาชนอินเดียในขณะที่พวกเขาเผชิญหน้ากับการคุกคามเสรีภาพและอธิปไตย" โดยคำพูดนี้ เป็นการอ้างถึงโพสต์หนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ไม่ว่าการเลือกตั้งในสหรัฐจะออกมาในรูปแบบใด ช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ - อินเดีย เนื่องจากจีนมีการขยายอิทธิพลไปมากมายในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก
ความตึงเครียดบริเวณพรมแดนที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างนิวเดลีและปักกิ่ง ได้เพิ่มปัญหาในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน ที่มีปัญหาอยู่ก่อนแล้วจากข้อพิพาทหลายเรื่องทั้งปัญหาไวรัสโคโรนา การค้าขาย เทคโนโลยี ไต้หวัน ทิเบต ฮ่องกง ปัญหาสิทธิมนุษยชนและข้อพิพาทระหว่างจีนกับเพื่อนบ้านในทะเลจีนใต้
ด้านเอสเปอร์บอกว่า '' แม้สภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงจะถูกท้าทายในปัจจุบัน แต่ความร่วมมือระหว่างสหรัฐและอินเดียซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดสองประเทศของโลก จะยังคงมีความยืดหยุ่น แข็งแกร่งและเติบโต ''
ปอมเปโอและเอสเปอร์เดินทางเยือนอินเดียเพื่อเข้าร่วมในการเจรจาระดับรัฐมนตรีประจำปีระหว่างสองประเทศ
ในวันเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศของจีนก็ได้เรียกร้องให้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ หยุดส่งข้อความต่อต้านจีนขณะเดินทางเยือนอินเดีย
หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงเรียกร้องให้ปอมเปโอ "หยุดพูดถึงสิ่งที่เรียกว่าเป็น 'ภัยคุกคามจีน' หยุดหว่านความไม่ลงรอยระหว่างจีนกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค และหยุดการกระทำที่ผิดพลาด ที่บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค"
ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้รัฐบาลทรัมป์เพิกถอนการขายขีปนาวุธ และระบบอาวุธอื่น ๆ ให้กับไต้หวัน "เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อความสัมพันธ์สหรัฐ - จีน"
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ได้แจ้งให้สภาคองเกรสสหรัฐทราบถึงแผนการขายระบบขีปนาวุธ Harpoon มูลค่า 2 พัน 370 ล้านดอลลาร์ให้แก่ไต้หวัน ซึ่งเป็นการขายอาวุธครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 ในรอบสองสัปดาห์ ให้กับเกาะที่ปักกิ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน ทำให้จีนประกาศเมื่อวันจันทร์ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรบริษัทที่ผลิตระบบอาวุธเหล่านี้ ซึ่งรวมถึง Lockheed Martin , Raytheon Technologies และ Boeing โดยจีนบอกว่าจะใช้มาตรการที่ถูกต้องตามกฎหมายและจำเป็น เพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ"