27 ตุลาคม 2563 ซึ่งเป็นการเปิดอภิปรายรัฐสภาสมัยวิสามัญ เป็นวันที่ 2 โดยหนึ่งในประเด็นของอภิปรายคือ การเคลื่อนไหวปฎิรูปสภาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้นายถวิล เปลี่ยนศรีสมาชิกวุติสภา (สว.) อดีต เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ได้อภิปรายในเรื่องดังกล่าวว่า ศัตรูของคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่สิ่งที่คนรุ่นใหม่กำลังต่อต้าน แต่ที่บ้านเมืองมีปัญหามาจากการโกงกิน ไม่ได้เกิดมาจากปัญหาสถาบัน แต่เป็นเพราะนักการเมืองไม่ดี ข้าราชการที่ทุจริต นายทุนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว นั่นคือศัตรูที่แท้จริงของประเทศนี้
สิ่งที่น่าเสียใจคือ ท่านไม่รู้ว่าศัตรูของท่าน และคนไม่ดีเหล่านี้ กำลังปลุกปลั่นบงการอยู่ข้างหลังท่านอย่างขี้ขลาด ปล่อยให้พวกท่านติดคุกติดตะราง แล้วคอยตักตวงผลประโยชน์จากพวกท่าน แบบไม่มีสำนึกรับผิดชอบชั่วดีใดๆ เรื่องนี้อาจจะแสลงใจน้องๆ ลูกๆ หลานๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บ้าง แต่ ผม คิดว่าจำเป็นต้องพูด
นายถวิล ยังกล่าวอีกว่า การปฏิรูปอะไรสักอย่าง ถ้าทำด้วยความเกลียด โกรธแค้น ชิงชัง จะทำไม่ได้ เพราะการปฏิรูปต้องเริ่มจากความรัก อยากเห็นสิ่งนั้นดีขึ้น จึงจะทำได้ แต่ถ้าเริ่มด้วยความเกลียดชังอย่างที่เห็นอยู่ ทำไม่ได้แน่นอน
ส่วนข้อเสนอเรียกร้องทางการเมือง โดยเสนอให้ พลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก ก็มีช่องทางที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ถ้าทำได้ นายกรัฐมนตรี ก็ต้องยุบสภา แต่ในความเห็นของ ตน ตลอดระยะเวลา 6 ปี จากการดูการทำงานของ นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ทำผิดรุนแรง ยังสามารถนำบ้านเมือง ฝ่าวิกฤต ประคับประคองสถานการณ์ของประเทศไปได้จนทุกวันนี้ และก็ยังไม่เห็นการทุจริตคดโกงตลอด 6 ปีที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นเรื่องหลักของความขัดแย้ง ก็มีคำตอบอยู่แล้วอยู่ในสภา เมื่อเปิดสมัยประชุมก็นำมาพิจารณาได้
ขณะที่การทำหน้าที่ของ สว.ก็ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับรัฐธรมนูญ แต่เป็นการ ทำหน้าที่โดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ดังนั้นถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญก็ไมได้มีปัญหา แต่ขอให้แก้อย่างชอบธรรมตามเจตนารมของกฎหมาย และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
นอกจากนี้ นายถวิลยังกล่าวอีกว่า ทำงานความมั่นคงมาตลอดชึวิตสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเสาหลักค้ำยันความมั่นคง และความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมืองนี้มาตลอด การรื้อหรือทำลายเสาหลักของบ้านเมืองนี้ทำไม่ได้ เป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมืองถึงขั้นสูงสุด
และสุดท้ายขอประณามพฤติการณ์ของไอ้โม่ง อีแอบ ที่เอาความคิดความเกีลยดชังสถาบันคอยปลูกฝังความคิดให้เด็กๆ เพื่อสนองตอบความมักใหญ่ใฝ่สูง สนองความต้องการของตัวเองโดยไม่รับผิดชอบ ผม เห็นมามากแล้วว่า จะต้องพบกับอนาคตที่เลวร้ายอย่างไร ผม ไม่ได้แช่ง เพียงแค่อยากจะเตือน และขอเตือนลูกหลาน น้องๆ ที่ชุมนุม ขอให้ทบทวนการแสดงออก ต้องเป็นไปตามกาลเทศะ และให้เกียรติคนรุ่นก่อนด้วย