"ส.ว.ออน" เห็นด้วย แก้ รธน.-หยุดคุกคามประชาชน

27 ตุลาคม 2563 นายออน กาจกระโทก สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ลุกขึ้นอภิปรายเห็นด้วยที่มีการเปิดประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญ ตามมาตรา 165 เพราะตนเชื่อมั่นในระบบของรัฐสภาที่สามารถแก้ปัญหาต่างๆของประชาชนคนในชาติได้ และยังรู้สึกว่าตนยังอยู่ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่เคยคิดเลยว่าตัวตนอยู่ในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการเหมือนใครหลายคนคิด
ดังนั้น ทุกคนที่เป็นคนไทยต้องร่วมมือกันที่จะต้องพัฒนาประเทศไม่ใช่เฉพาะคนที่อยู่ในสภา แต่ประชาชนที่อยู่นอกสภา และที่อยู่บนถนนที่เรียกว่าม็อบก็คือ คนไทย ฉะนั้น สิ่งที่จะสามารถพูดคุยกันเพื่อนำไปสู่การพัฒนาเจริญรุ่งเรืองของประเทศเราจะต้องทำร่วมกัน
นายออน ยืนยันว่า เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าทุกคนในสภาเห็นด้วยหมดกับข้อเรียกร้องของนิสิตนักศึกษา ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญต้องได้รับการแก้ไข รวมถึงเห็นด้วยให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน เพราะประเทศไทยปกครองด้วยระบบประชาธิปไตย ที่ให้สิทธิในการชุมนุมตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ จึงอย่าไปทำร้ายเขา ให้เขาได้แสดงความคิดเห็น

ทั้งนี้หากใครที่ทำผิดกฏหมายต้องโดนลงโทษ ต้องไม่ได้รับการยกเว้น เพราะไม่เช่นนั้นประเทศจะไม่มีความมั่นคง และเมื่อประเทศไม่มีความมั่นคง ประเทศจะอยู่ได้อย่างไร ความล้มสลายของหลายประเทศที่เกิดมาในอดีตเกิดจากการไม่มีความมั่นคง จนสูญสิ้นประเทศถึงสิ้นชาติ ดังนั้นทางออกของประเทศอย่างหนึ่ง คือ การจัดให้คนที่เห็นต่างได้มีเวทีที่แสดงความคิดเห็น เป็นเวทีอย่างถูกกฎหมาย เป็นเวทีที่ทุกฝ่ายยอมรับ

นายออน ยังกล่าวถึงข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออก โดยได้ย้อนถามว่า นายกฯ มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรต่อการพัฒนาประเทศ ต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนชาวไทย ซึ่งก็ต้องมาดูว่าเช่นนายกฯเผด็จการหรือไม่ ต้องย้อนถามว่าวันที่ท่านตัดสินใจรัฐประหาร วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับท่าน เพราะประชาชนจะฆ่ากันตายแล้วมีคนมาห้าม ซึ่งคนที่มาห้ามจะมีความผิดอย่างนั้นก็คงไม่ใช่ และการมาเป็นนายกฯในปัจจุบัน ท่านก็มาถูกตามกฏหมาย ส่วนที่บอกว่าบริหารผิดพลาด ก็ต้องไปดูว่ามีการทำให้ประชาชนเดือดร้อนหรือไม่ โควิด-19เป็นอย่างไร ประชาชนล้มตายจำนวนมากหรือไม่มีการคอรัปชั่นโกงกินหรือไม่ ไปโกงจำนำข้าวมีไหม ไปโกงแป้งมันสำปะหลังมีไหม ถ้ามีก็มีเหตุมีผล แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมยังมองไม่เห็น
เมื่อหาเหตุไม่ได้ แล้วเราจะมาบอกว่าไม่ชอบหน้ากันเลยไม่อยากให้เป็นนายกฯต่อ อย่างนี้ก็คงไม่ใช่ ถ้าออกไปใครขึ้นมาเป็นนายกฯ แล้วก็มีการเดินขบวนไล่มันอยู่อย่างนี้ สุดท้ายคนเป็นนายกฯ ทุกคนก็ไม่มีใครอยู่ได้ บ้านเมืองต้องอาศัยหลักเกณฑ์ อาศัยกฏหมาย อาศัยความชอบธรรม
"ขอฝากไปถึงนายกฯ คนโคราชบ้านผมฝากบอกผมมา ว่านายกฯ อย่าลาออก เขาบอกว่านายกฯ อยู่ต่อ อยู่ต่อยาวยาวท่านนายกฯ จนกว่าจะมีคนที่ดี มีความซื่อสัตย์ มีความจงรักภักดีเหมือนท่านนายกฯ หรือดีกว่า แล้ววันนั้นนายกฯค่อยไป ผมคิดว่าอยากฝากถึงนายกฯ เรื่องของความเกรงใจจะเสียการ ความสงสารจากเป็นทุกข์ ถ้าอยากเป็นสุข ให้ประชาชนเป็นสุข นายกฯต้องเข้มแข็งอย่าลาออกครับ" นายออน กล่าว

ส่วนการปฏิรูปสถาบัน นายออน กล่าวว่า ตนยังไม่มีเหตุผลว่าสถาบันสร้างความเดือดร้อนอะไรให้กับประชาชน มีแต่ความเมตตา มีแต่ความกรุณา และขณะนี้ประชาชนทั้งประเทศนับล้านล้านคนออกมาแสดงความจงรักภักดี ถือธงนำหน้าแสดงความจงรักภักดีมันผิดตรงไหน มันเป็นสิ่งที่ดีงาม ประชาชนนับล้านคนทั่วประเทศเขากินข้าว ไม่ได้กินแกลบ เขามีข้อมูลข่าวสารหมด ดังนั้นใครที่คิดล้มล้างสถาบันแค่คิดก็ผิดแล้ว แล้วกรรมก็ตามสนอง