26 ตุลาคม 2563 ความคืบหน้ากรณี ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ ใช้เชือกผูกคอตัวเองหวังฆ่าตัวตายภายในบ้าน พื้นที่ ต.เขาคราม แต่โชคดีที่พี่ชายและแม่ ช่วยเหลือไว้ได้อย่างหวุดหวิด สาเหตุเพราะมีความอับอายหลังถูกครูประจำชั้นที่โรงเรียน ยึดโทรศัพท์มือถือ แล้วนำไปเปิดอ่านแชทส่วนตัว และยังให้เพื่อนนักเรียนในโรงเรียนได้อ่านด้วย ทำให้ ด.ญ.บี เกิดความอับอายจนตัดสินใจก่อเหตุขึ้น
หลังเกิดเรื่องนางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี แม่ของเด็กออกมาขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้ และจะดำเนินการกับครูคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด ต่อมาผอ.โรงเรียน ได้เข้าพบพ่อแม่ของเด็กและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับครูประจำชั้นที่ก่อเหตุ ก็ได้ไปที่บ้านขอโทษ พร้อมมอบเงิน 500 บาท แต่ทางพ่อแม่ไม่รับขอโทษ
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ ที่สภ.อ่าวนาง นางน้อย แม่ของเด็กพร้อมด้วยญาติ ได้นำ ด.ญ.บี เข้าพบกับทาง พ.ต.ท.สมเชิญ ทองใหญ่ รอง ผกก.สอบสวน สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ และ ร.ต.ท.ฐิติกร น่านทับทิมทอง รองสารวัตรสอบสวนสภ.อ่าวนาง เพื่อแจ้งความเอาผิดกับครูรายดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไร
ในเบื้องต้นทางตำรวจได้สอบปากคำเด็ก และแม่ของเด็ก พบว่ากรณีที่เกิดขึ้นนั้น มีความผิดเข้าข่ายความผิดฐานเปิดเผยความลับ ตามกฎหมายมาตรา 322 ผู้ใดเปิดผนึกหรือเอาจดหมาย โทรเลข หรือเอกสารใดๆ ซึ่งปิดผนึกของผู้อื่นไป เพื่อล่วงรู้ข้อความก็ดี เพื่อนำข้อความเช่นว่านั้นออกเปิดเผยก็ดี ถ้ากระทำนั้นน่ะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนี่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับทั้งนี้ ตำรวจเตรียมเรียกครูมาสอบปากคำ เพื่อหาแนวทางพูดคุยกันก่อน แต่ทางแม่ของเด็กยืนยันว่า จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และขณะนี้ได้ให้เด็กหยุดเรียนชั่วคราวแล้ว เพราะกลัวว่าเด็กจะน้อยใจมากขึ้นหากไปโรงเรียน จนอาจก่อเหตุขึ้นอีกได้ ทางตำรวจจึงได้เตรียมออกหมายเรียกต่อไป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามกับ นายสายันต์ ไกรนรา ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ บอกเพียงสั้นๆว่า "ติดประชุม" ก่อนวางสายไป และโทรสอบถามล่าสุด ไม่รับสายแล้ว