โชคชัยยังไม่พ้นวิกฤติวัดบ้านไร่ยังเดือดร้อน

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา วันนี้ (25 ตุลาคม 2563) พบว่า ที่สำนักสงฆ์บ้านไร่ ต. ท่าอ่าง อ. โชคชัย จ. นครราชสีมา แม้ว่าระดับน้ำที่ท่วมสูงจะลดระดับลงประมาณ 20 เซนติเมตร แต่กระแสน้ำยังคงหลากเข้ามาในบริเวณสำนักสงฆ์อย่างต่อเนื่อง โดยพระอาจารย์แดง ฐิตาจาโร เจ้าสำนักสงฆ์บ้านไร่ เปิดเผยว่า มวลน้ำที่หลากไหลเข้ามาในวันแรก เป็นมวลน้ำที่ล้นมาจากบ่อประปาหมู่บ้าน ซึ่งมีน้ำจากลำสาขาลำพระเพลิงหลากเข้าไปสมทบ จนเอ่อท่วมออกมายังพื้นที่โดยรอบ ซึ่งบริเวณสำนักสงฆ์ เป็นที่ลุ่มต่ำรองรับน้ำพอดี มวลน้ำจึงไหลมาท่วมบริเวณอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีกลุ่มผู้ใหญ่และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโคกพลวงหมู่ที่ 12 ตำบลละลมใหม่พัฒนา นำรถอีแต๋นมาช่วยขนของ รวมถึงพระพุทธรูปที่สำคัญ ขึ้นที่สูงได้ทัน และพยายามใช้ตาข่ายล้อมดักปลาในสระเอาไว้ไม่ให้ว่ายลอยหายไปกับกระแสน้ำ แต่มวลน้ำยังหลากมาต่อเนื่อง จึงต้านแรงน้ำไม่อยู่ ทำได้แค่อพยพสิ่งของต่างๆ เท่านั้น และขณะนี้ก็ยังไม่สามารถใช้พื้นที่ประกอบกิจของสงฆ์ได้ตามปกติ ต้องไปใช้ศาลาด้านบนปฏิบัติกิจแทน ซึ่งแต่ละปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีน้ำหลากเข้ามาท่วมมากเท่าปีนี้ และกระแสน้ำไหลแรงท่วมลานกับที่พักสงฆ์หลายหลังได้รับความเสียหาย



 

ส่วนสภาพบ้านเรือนของชาวบ้าน บ้านไร่ หมู่ 1 ต.ท่าอ่าง พบว่า น้ำหลากมาเอ่อท่วมท่วมเส้นทางสัญจรในหมู่บ้าน ระดับน้ำค่อนข้างสูง บางครัวเรือนต้องใช้กะละมังยางและห่วงยางขนาดใหญ่แทนเรือ สำหรับใช้สัญจรเข้า - ออกบ้าน และไปยังที่ต่างๆในหมู่บ้าน ซึ่งบ้านที่ถูกน้ำท่วมเป็นหลังแรก จะตั้งอยู่ห่างจากกลุ่มบ้านใหญ่ประมาณ 500 เมตร มีคนพิการอยู่ภายในบ้านด้วย คือนายเหลือ อ่อนก้านเหลือง ประสบอุบัติเหตุตกต้นไม้หลังหัก เดินลำบาก บอกว่า ปกติถ้าฝนตกหนักต่อเนื่อง บ้านของตนจะถูกน้ำท่วมเป็นประจำ ซึ่งทุกๆครั้ง ชาวบ้านจะเข้ามาช่วยเหลือยกสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง แต่ปีนี้น้ำมาแรงและเร็ว สิ่งของหลายอย่างอพยพขึ้นที่สูงไม่ทัน จำเป็นต้องปล่อยให้ลอยไปกับกระแสน้ำ โดยมวลน้ำที่หลากมาเอ่อท่วมในปีนี้สูงกว่าปกติ ขณะนี้ยังคงท่วมทางเข้าหน้าบ้าน ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ยังมีกลุ่มผู้ใจบุญจากอำเภอครบุรี มีน้ำใจนำรถยกสูงบรรทุกน้ำ อาหาร และเครื่องยังชีพ เข้ามาช่วยเหลือ ส่วนข้าวกล่องจะมีผู้นำมาส่งให้การช่วยเหลือทุกวัน

ด้านนายคนึง เปรี่ยมกระโทก อดีต ผู้ใหญ่บ้าน บ้านไร่ หมู่ 1 ต. ท่าอ่าง กล่าวว่า ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนเรื่องปศุสัตว์อย่างหนัก เนื่องจากน้ำท่วมสูงทำให้ไม่มีหญ้า ฟาง สำหรับเลี้ยงโค-กระบือ ประมาณ 30 กว่าตัวในโครงการพระราชดำริ อนุรักษ์พันธุ์โค-กระบือไทย ซึ่งเวลานี้พื้นที่เลี้ยงสัตว์ในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงมาหลายวันแล้ว โค-กระบือที่เลี้ยงในหมู่บ้านมีประมาณ 30 ตัวไม่มีหญ้าหรือฟางกิน อยากให้ทางหน่วยงานรัฐหรือผู้ใจบุญได้ช่วยนำฟางหรืออาหารสัตว์มาช่วยเหลือด่วน เพราะฟางอัดแท่งที่ทางเกษตรจังหวัดฯ จะนำมาช่วยเหลือ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับ ในขณะเดียวกัน เกษตรกรรายอื่นๆที่ทำการเกษตรต้องเก็บเกี่ยวก่อนฤดูกาล ทั้งข้าวนาปีและมันสำปะหลัง เกษตรกรจำเป็นต้องเร่งเกี่ยวข้าวและถอนหัวมันสำปะหลัง ขึ้นมาจากน้ำก่อนเวลา บรรทุกใส่เรือใช้รถไถลากออกมาจากไร่ แม้ว่าจะยังไม่โตเต็มที่ แต่ต้องเก็บเกี่ยวก่อน ดีกว่าปล่อยให้จมน้ำเสียหายทั้งหมด