นายแพทย์ ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันความขัดแย้งหลัก 2 ฝ่าย ซึ่งคือ ฝ่ายปกป้องสถาบัน และฝ่ายที่ต้องการปฎิรูปสถาบัน เกี่ยวพันกับการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญโดยตรง ไม่ว่ารัฐสภาฯ จะมีมติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมาในรูปใด ก็จะมีฝ่ายหนึ่งพอใจ แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็จะไม่พอใจ เช่นถ้ามีมติไม่ให้แก้ไขหมวด 1,2 ฝ่ายปกป้องสถาบันก็จะพอใจ แต่ฝ่ายปฎิรูปสถาบัน ก็จะไม่พอใจ
"ผมขอเสนอทางออก ที่สามารถจะลดความขัดแย้งลงได้ และเลี่ยงต่อการเกิดหายนะต่อประเทศ โดยขอให้รัฐสภาฯ มีมติให้ทำประชามติ ถามคนไทยทั่วประเทศก่อนว่า คนไทยจะให้แก้รัฐธรรมนูญปี 60 หรือไม่ และถ้าให้แก้ จะให้แก้รายมาตราก็พอ หรือ จะให้แก้มาตรา 256 และให้ตั้ง สสร.มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รวมถึงจะให้แก้หมวด 1,2 หรือไม่ และถ้าให้แก้ จะให้แก้อำนาจ ส.ว. ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่" นายแพทย์ ระวี กล่าว
นายแพทย์ ระวี กล่าวด้วยว่า เมื่อมีประชามติออกมาอย่างไร รัฐสภาก็ดำเนินการตามนั้น โดยให้ทำประชามติ ในเวลา 1-2 เดือน เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษารัฐธรรมนูญให้ดีก่อน ถ้ารัฐสภามีมติออกมาแบบนี้ จะช่วยลดความขัดแย้งในสังคมไทยได้ เพราะเมื่อมีผลประชามติออกมาในรูปแบบใดก็ตาม ทุกฝ่ายต้องยอมรับตามระบอบประชาธิปไตย แต่ถ้ารัฐสภาจะฝืนตัดสินใจเรื่องแก้รัฐธรรมนูญกันเองก่อน เมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ แล้วนำมาผ่านประชามติ ถ้าเกิดผลประชามติไม่เห็นด้วย ก็ต้องมาเริ่มกันใหม่อีก ทำให้ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นอีก