ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระแสพลังของประชาชนชาวไทยที่รักในหลวง และเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ร่วมแสดงพลังบริสุทธิ์ให้เห็นในทวิตเตอร์ด้วยแฮชแท็ก #พลังเงียบ #ในหลวงสู้สู้ จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ขณะเดียวกันการที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้าได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับปฏิรูปและปฏิวัตินั้น
เข้าใจได้ว่าแรงจูงใจที่ต้องเขียนเนื้อความแบบนั้นอาจเป็นเพราะนายปิยบุตร เกิดอาการร้อนรนและขัดใจ ที่เห็นภาพปวงชนชาวไทยจำนวนมากสามัคคี แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างจริงใจ เป็นความรู้สึกที่มาจากใจ จากศรัทธา อาจทำให้นายปิยบุตรตระหนก ตื่นจากการหลอกตนเองว่า คนส่วนใหญ่หลงเชื่อการปลุกปั่นที่ได้ทำมาตลอดเวลา
การที่นายปิยบุตรโพสต์เรื่อง เส้นบางๆ ระหว่างการปฏิรูปและการปฏิวัติ ดูท่านายปิยบุตรจะรู้ดี ยิ่งคำว่า "ปฏิวัติ" นั้น นายปิยบุตรนำมาใช้สื่อความหมายโดยนัยบ่อยครั้ง จนอาจจะน่าเชื่อได้ว่าจะเป็นเจตนาแท้จริงของนายปิยบุตรหรือไม่ จากพฤติกรรมต่างๆ สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันว่า คำว่า "ปฏิวัติ" คือเจตนาและจุดประสงค์ที่ต้องการ เพียงแต่เอาคำว่า "ปฏิรูป" มาบังหน้า เพื่อเป็นเกราะกำบังด้านกฎหมาย
ต้องการใช้ช่องโหว่ของกฎหมายที่คิดเองเออเอง ให้เป็นประโยชน์ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนที่เชื่อนายปิยบุตร อย่าไปยืนออกหน้าแล้วยอมให้นายปิยบุตร มาหลบอยู่ข้างหลัง คอยฉกฉวยผลประโยชน์ และขอให้มีสติอย่าถูกข้อมูลลวง ชี้นำให้ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่ไม่หวังดีกับประเทศ
ทั้งนี้การร้อนรน รีบโพสต์ข้อความดังกล่าวอาจเกิดจาก 3 พฤติกรรมดังนี้ 1.ไม่อยากอยู่ประเทศไทยแล้ว 2. กลัวนายจ้างที่ตนเฝ้ายกยอ แอบหลอกใช้จะหมดศรัทธาในภาพเงาที่สร้างมาของตนเอง 3.ประชาชนจะรู้ทันว่าการชุมนุมเกิดจากมายาคติ กุข่าวลือ สร้างข้อมูลเท็จ ปั่นกระแสสังคม โหมโฆษณาชวนเชื่อ กลัวประชาชนจะเห็นเจตนาของนักกฎหมายที่จงใจให้ความรู้ทางกฎหมายแบบผิดๆ ทั้งที่เกิดจากเจตนาบิดเบือนและความหลงผิดคิดว่าตนเองรู้มาก เพื่อหลอกลวงและหลอกใช้ประชาชน น.ส. ทิพานัน กล่าว